ReadyPlanet.com
ละไม มิวสิค
ละไม ไทยแลนด์
ละไม วาไรตี้
ละไม ต่างแดน
เกี่ยวกับเรา
ติดต่อเรา




ปางอุ๋ง ปาย มันส์ ฮา

            “เฮ้อ….เบื่องานจัง น่าไปเที่ยวชาร์ตแบตซะหน่อยเนอะ” นี่คือประโยคเริ่มต้นของการเดินทางท่องเที่ยวครั้งนี้ จากการนั่งกินข้าวเช้าด้วยกัน 2 คน จากนั้นฉันรับหน้าที่ในการหาสมาชิกร่วมเดินทาง สุดท้ายรวบรวมเพื่อนได้ 7 คน แต่พวกเราตกลงที่จะทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ เพื่อเป็นตัวช่วยในการหารค่าเหมารถเที่ยว

            การหาสมาชิกครั้งนี้ของฉันแตกต่างกว่าทุกครั้ง เพราะฉันหาสมาชิกผ่าน web site ท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง จนเราได้ผู้ร่วมเดินทาง 3 คน ซึ่งเป็นหนุ่มช่างภาพ portrait 1 คน กับพี่ช่างภาพ landscape ที่มากับแฟน ซึ่งตอนแรกพวกเราก็กังวลกันพอสมควรว่าเพื่อนใหม่เราจะเป็นยังไง เพราะวิธีการในการหาเพื่อนใหม่กันก็ค่อนข้างจะอันตรายเหมือนกันในยุคนี้ และตอนนี้เราได้เปลี่ยนการเดินจากรถทัวร์มาเป็นรถตู้ ซึ่งพี่คนขับรถตู้เราก็ได้รู้จักผ่าน web เดียวกับเพื่อนใหม่นั่นแหละ

            .....และแล้ววันเดินทางก็มาถึง สรุปทริปนี้เรามีสมาชิกทั้งหมด 9 คน (เพราะน้องในกลุ่มถอนตัวไป 1 คน) เราให้รถไปรับเพื่อนใหม่จากที่กรุงเทพ จากนั้นก็มารับพวกเรา ขาไปเรียกว่าเป็นการเริ่มต้นของคำว่า “มิตรภาพ” เนื่องจากเราไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน มีแต่ฉันที่คุยผ่าน MSN, Mail,โทรศัพท์มาบ้าง แรกๆพวกเรายังสงวนท่าทีกันเล็กน้อย แต่ออกเดินทางได้ไม่นานฉันก็ต้องใจหาย เพราะนึกได้ว่าฉันลืมกระเป๋าตังค์ไว้ที่หน้าหอพักพร้อมกับเงินกองกลางในการเที่ยวบางส่วน แต่โชคดีร้านค้าที่หอเก็บไว้ให้โดยที่เงินไม่หายเลยซักบาท โชคดีจริงๆ ต้องขอบคุณพี่เจ้าของร้านมากๆ 

 



          จุดหมายแรกของการเที่ยว คือ ทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอ เราไปถึงกันตอนประมาณ 8.00 น. พวกเราทานอาหารเช้ากันก่อนที่จะเริ่มการถ่ายรูป กองทัพมันต้องเดินด้วยท้องไง พี่ portrait ก็คอยเก็บภาพอากัปกิริยาของพวกเราไปเด้วย ส่วนคู่แฟนนั้นก็ได้หายเข้าทุ่งบัวตองไปเรียบร้อยแล้ว จะบอกว่าสีเหลืองบนดอยแม่อูคอสวยมากๆ แต่ทางขึ้นจะชันนิดหนึ่ง
                    

          จากแม่อูคอ เราไปต่อกันที่น้ำตกแม่สุรินทร์ ตอนนี้เราได้ตีซี้กับเพื่อนใหม่เรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะพี่ช่างภาพ portrait เพราะอยากได้รูปสวยๆจากกล้องพี่เค้าไง เราไม่มีโอกาสเข้าไปสัมผัสน้ำตกใกล้ๆได้ เนื่องจากเวลาไม่พอ เพราะต้องเดินเท้าเข้าไปถึง 3 ชม. จึงได้แค่ยืนถ่ายรูปกับน้ำตกไกลๆ

         จากแม่สุรินทร์เดินทางสู่เมืองแม่ฮ่องสอน ขอบอกทางช่วงตรงนี้ เล่นเอาฉันกับเพื่อนเงียบไปทั้งคัน ไม่ใช่อะไรหรอก ก็ทางโค้งแบบตัว S S S ทำให้พวกฉันต้องกินยาแก้เมาแล้วก็นอน คือ ฉันจะอ้วกอ่ะ (แอบไม่สุภาพเล็กน้อย) กะว่าถ้าอีก 10 นาทียังไม่ถึง จะขอพี่คนขับลงไปอ้วกก่อน ระหว่างทางเห็นคนขับรถคันอื่นลงไปนั่งอ้วกข้างทางด้วยแหละ อิอิ....และแล้วก็มาถึงแม่ฮ่องสอนจนได้ ผ่านมา 1864 โค้ง (อ้วก+หลับ = แม่ฮ่องสอน)เราแวะทานข้าวกลางวันแบบง่ายๆก่อนเดินทางขึ้นไปปางอุ๋ง ระหว่างทางแวะเที่ยวกันที่น้ำตกผาเสื่อก่อน สวยมากๆ อากาศเย็นสบาย แต่เสียดายเรามาถึงเย็นไปหน่อยทำให้ไม่มีแสง ถ่ายรูปไม่สวย แต่สิ่งเดียวที่ห้ามลืมสำหรับพวกเราคือ “ป้าย”



          จากน้ำตาผาเสื่อ เรารีบขึ้นไปปางอุ๋ง โห้....ทางขึ้นปางอุ๋งนี่มันชันมากเลยนะ เมื่อกี้ตอนมายังไม่หายเมาโค้งเลย ต้องมาโค้งต่อ งานนี้มันไม่ใช่ 1864 โค้งแล้ว มันจะ 3000 โค้งแล้วมั้งเนี่ย.... 
                    
          เมื่อถึงปางอุ๋ง.....อากาศที่นี่หนาวมากสำหรับแก๊งค์เรา คืนนี้เราพักที่บ้านลุงปาละ ตอนอาบน้ำนี่ยังกะเอาน้ำแข็งมาราดตัว แต่พี่ landscape ของเราใส่ขาสั้น เพราะกลัวไม่ได้สัมผัสอากาศหนาว.....ช่างกล้า นักท่องเที่ยวเริ่มมาเที่ยวที่นี่กันเยอะพอสมควรแล้ว ขนาดไม่ใช่เทศกาลนะ เรามีนัดกันตอนตี 5 ครึ่ง เพื่อไปนั่งเฝ้าพระอาทิตย์ขึ้นกันที่ริมทะเลสาบปางอุ๋ง ช่วงเช้าของปางอุ๋งสวยกว่าตอนเย็น เพราะมีไอน้ำจากทะเลสาปลอยขึ้นมาเป็นรูปที่บรรดาช่างภาพชอบกันมาก เป็นเหมือนในรูปที่ FWD เมลล์กันมานั่นแหละ แต่ว่ามันก็ไม่ได้สวยมากมายขนาดในรูปที่ส่งกันมาหรอก แต่ก็ยังถือว่าสวยอยู่

          9.30 น. เราเดินทางจากปางอุ๋งไปหมู่บ้านรักไทย เป็นหมู่บ้านชาวจีนที่มีชาต่างๆขาย มีให้ชิมฟรีด้วย ชาที่ขายบนนี้ก็จะถูกกว่าในเมืองเยอะเลย พวกเราซื้อมากันพอสมควร แม่ค้าที่นี่ก็น่ารักนะ มีประโยคหนึ่งที่ฉันได้ยินแล้วชอบจากน้องในร้านต้าเหล่าซือ คือ “ถ้าเราอยากให้เค้ามีน้ำใจให้ เราต้องมีน้ำใจให้เค้าก่อน” จริงๆถ้าทุกคนคิดแบบนี้ สังคมมันคงน่าอยู่ขึ้นเยอะ วิวที่รักไทยสวยดีนะ เหมือนจะเป็นวิวที่ใช้ถ่ายหนังด้วย งานนี้ตากล้อง 2 คน ก็โดนพวกเราใช้งานอย่างหนักตามเคย อิอิ

          จากนั้นเราไปต่อกันที่ปางตอง ที่นี่เหมาะสำหรับการไปศึกษาแนวทางเกษตรธรรมชาติอ่ะ จากนั้นเรารีบเดินทางต่อไปอำเภอปาย โอ้โห้....โค้ง S S อีกแล้วอ่ะ พวกเรา 6 คนเลยกลายเป็นคนติดยา(แก้เมา) กันไปเรียบร้อย ส่วน 3 คนเบาะหลังสุด อึด ไม่เป็นไร..มีแต่แฟนพี่ landscape เราเริ่มเมารถ เพื่อนฉันทำได้ยื่นยาหม่องให้ แต่ไม่ได้เสียสละไปนั่งหลังแทน หรอก เหอะๆ ทั้งๆที่เราตกลงกันว่าจะต้องไปสลับกันนั่งเบาะหลังสุด เพราะจุดมันจะเหวี่ยงมากกว่าจุดอื่น (ตัวเองยังไม่รอดเลย)

          ถึงปาย ก็รีบหาที่พักเป็นการด่วน เพราะมาถึงเย็นอีกแล้ว เราพักกันที่สุรษาเกสเฮ้าส์ คืนละ 550 บาท นอนห้องละ 3 คนไม่คิดเงินเพิ่ม เลยตกลงพักที่นี่ จากนั้นก็บึ่งรถไป coffee in love เป็นสถานที่ที่น้องคนหนึ่งในทริปอยากไปมากๆ พอไปถึงเท่านั้น ฉันกับพี่อีกคนที่ไม่มีกล้อง ก็เรียกพี่ portrait กันใหญ่ ตรงนี้ถ่ายรูปสนุกมาก เพราะทุกจุดน่าถ่ายรูปหมดเลย สวยจริงๆ ชอบๆ โดยเฉพาะป้าย ตรงนี้พี่ portrait เราต้องทำงานหนัก เพราะเรา 6 คนแย่งกันถ่ายใหญ่ แอ๊คซ้าย แอ๊คขวา เปลี่ยนมุม พี่คนขับอยากถ่ายรูปให้ยังกดชัตเตอร์ไม่ทันเลย ได้แต่ทำหน้าเอ๋อแทน ส่วนคู่แฟนนั้นก็เหมือนเดิมคือถ่ายวิว แต่คราวนี้โดนยุให้ไปถ่ายคู่กันที่ป้ายหลักกิโลปาย



             เราย้ายไปถ่ายรูปกันต่อสะพานประวัติศาสตร์ แต่คงเป็นสะพานประวัติศาสตร์ของคู่แฟนเพราะเพิ่งนึกได้ว่า ลืมกระเป๋าเลนส์ไว้ที่หลักกิโลปาย ร้าน coffee in love หลังจากที่พวกเราถ่ายรูปกันไปเกือบชั่วโมง ถึงเวลาใจหายกันอีกรอบ ระหว่างกลับไปที่ coffee in love ในรถเงียบยังกะป่าช้า ไม่มีแม้กระทั่งเสียงลมหายใจ พอมาถึงก็เฮ้อ...โล่งอก หายใจได้ตามปกติ เพราะกระเป๋ายังวางอยู่ที่เดิมของทุกอย่างอยู่ครบ ดวงดีอีกแล้วทริปนี้ ตอนกลางคืนก็มาเดินกินบรรยากาศเมืองปายที่ถนนคนเดินที่จะมีสินค้าพื้นเมืองมาขาย และที่ขาดไมได้คือ ร้านมิตรไทย ร้าน postcard ดังประจำเมืองปาย ถึงแม้จะขายแพงกว่าร้านอื่น แต่ว่าคนก็เต็มอยู่ร้านเดียว เราเดินกันถึง 4 ทุ่มก็กลับที่พัก เพื่อเตรียมไปดูพระอาทิตย์ดวงเดียวกับปางอุ๋งนั่นแหละ แต่ย้ายที่ไปดูที่ห้วยน้ำดัง ตี 5 ออกจากที่พักไปห้วยน้ำดัง ถึงเวลารัวชัตเตอร์อีกแล้ว ที่นี่สวยมาก ทะเลหมอกเต็มไปหมด มันเป็นสถานที่ที่พวกเราอยากมานานแล้ว แต่ยังไม่ได้มาซะที ครั้งนี้สมใจแหละ เรารอจนถึงสายๆเพื่อให้ทัวร์กลับกันไปก่อน จะได้มีเวลาถ่ายกับป้ายห้วยน้ำดังนานๆ แบบไม่มีคน แล้วก็ได้เวลาใช้งานพี่ตากล้องอีกเช่นเคย



          ออกจากห้วยน้ำดังเราเปลี่ยนเส้นทางไปเที่ยวต่อที่ดอยอินทนนท์แทน ก่อนขึ้นเราแวะนั่งกินข้าวเหนี่ยว ส้มตำ ที่น้ำตกแม่ยะ น้ำตกสวยมาก ใหญ่อลังการด้วย แต่เวลามีน้อยเพราะต้องรีบขึ้นไปยอดดอย จริงๆว่าจะไม่ไปแล้ว กลัวกลับไปทำงานไม่ทัน บวกกับเกรงใจพี่คนขับด้วย แต่พี่เค้าอยากพาไป เพราะมีน้องและเพื่อนในทริปอีก 4 คนที่ไม่เคยมาอินทนนท์ แต่ฉันเคยมาแล้ว เราทั้งหมดมานั่งเขียน postcard กลับไปหาเพื่อนๆ และมอบให้เพื่อนใหม่ของเราทั้ง 4 คน กันที่นี่แหละ สำหรับอินทนนท์เรามีเวลาอยู่ได้ไม่นานก็ต้องลง เพื่อเตรียมตัวกลับกันแล้ว


               สำหรับทริปนี้ถือว่าเป็นทริปที่สนุกมาก ถึงแม้ก่อนมาจะมีความกังวลกันบ้างเกี่ยวกับเพื่อนใหม่ และพี่คนขับรถ แต่พอมาแล้วพวกเราประทับใจมาก พี่ช่างภาพ 2 คนน่ารักมากรวมถึงแฟนพี่ด้วย โดนพวกเราใช้ให้ถ่ายรูปจนเหนื่อยก็ไม่บ่นซักคำ ตารางเที่ยวก็เปลี่ยนไป เปลี่ยนมา ไม่ได้เป็นแบบที่แจ้งไว้ก็ไม่ว่า ส่วนพี่คนขับก็ใจดีเกินคาด สำหรับเราพี่เค้าไม่ใช่แค่พี่คนขับรถ แต่เป็นญาติเราที่พามาเที่ยวด้วยกันต่างหาก มีคนเคยบอกฉันว่า “เวลามาเที่ยว ปลายทางไม่ได้สำคัญ แต่ระหว่างทางมีอะไรน่าจดจำกว่าเยอะ” ซึ่งก็จริงๆ “แต่ไม่ใช่วิวข้างทาง มันคือ มิตรภาพของเพื่อนร่วมทางที่พวกเราต้องจดจำมันตลอดไป”  เรา 6 คน ดีใจที่ได้เจอเพื่อนร่วมเดินทางทั้ง 4 คน ขอบคุณ website แห่งนั้นที่เป็นสื่อที่ทำให้เราได้รู้จักกัน ภาพทุกภาพมันคือ เรื่องราวความทรงจำที่ไม่ต้องมีคำบรรยาย หวังว่าโอกาสหน้าจะได้ไปเที่ยวด้วยกันอีก

ข้อมูล : บทความพิเศษ ททท./ ต้นสารภีสีกันภัย

แพ็คเกจ ปางอุ๋ง ปาย คลิก




ละไม วาไรตี้

Tawandang German Brewery
ซาฟารีเวิลด์ อาณาจักรแห่งความสุข
สวนสัตว์เปิดเขาเขียว
พิพิธภัณฑ์วิทย์ฯ คลอง 5 รังสิต
วัดถ้ำเสือ กระบี่
เมืองโบราณ
ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา
มาดามทุสโซ่ กรุงเทพฯ
ตรุษจีน
เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์
พิพิธภัณฑ์โชคชัย
พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ
พระราชวังสนามจันทร์
วัดเล่งเน่ยยี่ 2
ตุ๊กตุ๊กหัวกบ แลเมืองตรัง
วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี
ศิลป์แผ่นดิน (Arts of the Kingdom)
อันเดอร์ วอเตอร์ เวิลด์ พัทยา
อุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม ราชบุรี
พระนารายณ์ราชนิเวศน์ จ.ลพบุรี
พระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
พระที่นั่งอนันตสมาคม
วิถี..ดั้งเดิม และพิพิธภัณฑ์ชุมชนชาวเกาะลันตา
พิพิธภัณฑ์อนันต์ชัยไทยโบท
FLIGHT OF THE GIBBON ชะนี....เหิรเวหา
มหัศจรรย์โลกใต้ท้องทะเลในกรุงเทพฯ article
ท้องฟ้าจำลอง
แดนดิน..ถิ่นไดโนเสาร์
Chiang Mai Zoo Aquarium
สิ่งมงคลคู่ตรุษจีน เสริมความเฮง
อันดามัน ชื่อนี้มีที่มา..
เบิร์จ กาลิฟา ตึกสูงที่สุดในโลกแห่งใหม่
เขาดินวนา” ครบรอบ 71 ปี
ขนมจีนเส้นสด กระบี่
วันฮาโลวีน (Halloween)
Night Dive กุ้งลายหินอ่อน
คริสต์มาส
เที่ยวปลอดภัยในหน้าหนาว
เมื่อปลาใหญ่ไล่ล่าปลาเล็ก
ไหว้พระ ที่สระบุรี
ถ่ายภาพเมื่อ ฟ้าหม่น ทะเลหมอง
ตำนาน ดอกกุหลาบ
แสตมป์ทองคำ
หัตถศิลป์ ศิลปาชีพ เทิดพระเกียรติ 80 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
เรื่องของเต่าทะเล
โครงการทำความสะอาดบ้านปลาทะเลตรัง
Amazing Balloon Amazing Festival Korat