ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ "ล่องแก่งน้ำเข็ก"  ที่พิษณุโลก 

          ในช่วงฤดูที่สายฝนโปรยปรายแบบนี้ หากท่านผู้อ่านกำลังมองหากิจกรรมในวันหยุดสุดสัปดาห์ เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดจากการงานล่ะก้อ ผมขอแนะนำกิจกรรมที่กำลังฮิตในช่วงหน้าฝน หรือ Green Season แบบนี้ นั่นก็คือ การท่องเที่ยวเชิงนิเวศไงล่ะครับ ส่วนกิจกรรมที่น่าสนใจและอยากเชิญชวนท่านผู้อ่านไปสัมผัสกัน ก็คือ การล่องแก่งเรือยางลำน้ำเข็ก อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก

           “ ลำน้ำเข็ก ” เป็นสายน้ำที่มีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ อำเภอเขาค้อ กระแสน้ำไหลผ่านอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง น้ำตกศรีดิษฐ์ น้ำตกแก่งโสภา น้ำตกปอย น้ำตกแก่งซอง และน้ำตกวังนกแอ่น ผ่านอำเภอวังทอง แล้วไหลไปรวมกับแม่น้ำน่านที่ อำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก

           ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 13–14 ปีที่แล้ว ได้มีการสำรวจเส้นทางของ “ ลำน้ำเข็ก ” พบว่า เป็นลำน้ำที่เหมาะสำหรับการล่องแก่งด้วยเรือยาง เนื่องจากเส้นทางตลอดสองข้างทางประกอบไปด้วยป่าเขาแมกไม้ น้ำตก ไอหมอก และอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ที่ได้รับการขนานนามว่า The Green Route

          “ ลำน้ำเข็ก ” เป็นลำน้ำที่ไม่ใหญ่นัก ในฤดูแล้งสายน้ำจะมีสีเขียวใส ส่วนช่วงฤดูฝนสายน้ำจะมีสีออกน้ำตาลแดง อีกทั้งนักท่องเที่ยวยังได้รับความสะดวกสบาย ไม่ต้องเดินเท้าเข้าป่า ไม่ต้องแบกหามเรือยาง ไม่ต้องเตรียมเสบียง จุดของลำน้ำที่ล่องแก่งนี้จะขนานไปกับทางหลวงหมายเลข 12 (สายพิษณุโลก-หล่มสัก) ซึ่งเป็นเส้นทางคมนาคมหลัก เป็นถนนแห่งการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ดังนั้นทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพิษณุโลก จึงได้มีการส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมการท่องเที่ยวล่องแก่งลำน้ำเข็กขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม

          การล่องแก่ง เป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และผจญภัย หรือที่นิยมเรียกว่า “การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ”  กิจกรรม “ล่องแก่งลำน้ำเข็ก” อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก นับเป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวที่สำคัญและสร้างรายได้ให้แก่จังหวัด รวมไปถึงท้องถิ่นได้เป็นอย่างมาก  เนื่องจากได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบความท้าทาย ผจญภัยท่ามกลางธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ยิ่งไปกันเป็นหมู่คณะแล้วรับรองว่าทุกคนจะสนุกสนานกันจนลืมเหนื่อยเลยทีเดียว

           การล่องแก่งลำน้ำเข็ก จะเริ่มต้นจากบริเวณ หลักกิโลเมตรที่ 52-53 บ้านทรัพย์ไพรวัลย์ ตำบลแก่งโสภา อำเภอวังทอง ล่องไปตามลำน้ำเข็ก สู่บริเวณตอนบนของน้ำตกแก่งซอง ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 44-45 ตำบลแก่งโสภา อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก นักท่องเที่ยวจะรู้สึกสนุกสนานและท้าทายตลอดเวลา ซึ่งจะเริ่มต้นจากกระแสน้ำนิ่งเป็นคลื่นเล็กน้อย ซึ่งจัดอยู่ในความรุนแรงระดับเริ่มต้นคือระดับ 1 และจะเริ่มเพิ่มความตื่นเต้นเร้าใจมากขึ้นไปเรื่อยๆ ตามลำดับอย่างไม่รู้ตัวจนกระทั่งถึงระดับสูงสุด คือระดับ 5 ในช่วงท้าย

          เส้นทางการล่องแก่งจะผ่านเกาะแก่ง 13–18 แก่ง เริ่มต้นจาก "แก่งท่าข้าม"  ต่อด้วย "แก่งต้นไทร"  "แก่งเวฟยาว"   "แก่งพนาวัลย์"  ซึ่งเป็นแก่งขนาดเล็กน้ำนิ่ง ความยากระดับ 1 ต่อด้วย "แก่งมรดกป่า"  ซึ่งบริเวณนี้สายน้ำจะแบ่งออกเป็น 2 สาย และเพิ่มดีกรีความเชี่ยวกรากของสายน้ำเป็นระดับ 3 ซึ่งจะมีโขดหิน กิ่งไม้ เป็นอุปสรรคที่ท้าทายเราอยู่เป็นระยะ จากนั้นเข้าสู่ "แก่งปากยาง"  ก่อนจะไหลผ่านน้ำตกที่มีความสูงราว 1.5 เมตร แล้วเข้าสู่ "แก่งหินลาด"  "แก่งวังตะเคียน"  ซึ่งเป็นแก่งที่ต้องท้าพิสูจน์ถึงจะรู้ว่ามันส์ขนาดไหน จากนั้นมาสะใจกับ "แก่งยาง"  "แก่งรัชมังคลา" ก่อนเข้าสู่ "แก่งซาง" เป็นลานหินเรียบสลับกับหินขนาดใหญ่มีความยาวเกือบ 100 เมตร ความยากระดับ 4-5 ซึ่งเป็นช่วงที่ลำน้ำหักศอกเลี้ยวซ้ายในทันที ช่วงนี้ถือว่าโหดใช้ได้เลย แล้วก็มาถึง "แก่งโสภาราม" ลักษณะคดโค้งคล้ายตัว S ถึงแม้กระแสน้ำไม่รุนแรงมากนัก แต่ต้องใช้ทักษะการพายค่อนข้างสูงทีเดียว จากนั้นก็เข้าสู่  "แก่งนางคอย"  ช่วงนี้กระแสน้ำจะไหลผ่านหน้าผารูปเกือกม้า มีความสูง 2 เมตร และมีก้อนหินใหญ่เป็นอุปสรรคกีดขวางอยู่ รวมทั้งมีโขดหินอยู่ใต้น้ำ ดังนั้นต้องใช้ทักษะและเทคนิคในการพายเพื่อให้ผ่านพ้นแก่งหินบริเวณนี้ไปให้ได้ ไม่อย่างนั้นเรือยางมีสิทธิ์พลิกคว่ำได้ แล้วมาเร้าใจกับ "แก่งยาว"  แก่งที่มีความยาวแบบนันสต๊อปประมาณ 200 เมตร

           ตลอดเส้นทางแห่งความโหด มันส์ ฮา นั้นจะพบว่า มีการรวมพลัง มีความสามัคคีพร้อมเพรียง การให้ความร่วมมือของทุกคนในเรือ เพื่อฝ่าฟันอุปสรรค หลบหลีกอุปสรรคต่าง ๆ นานา ไปสู่จุดหมายปลายทาง อาทิ การหลบหลีกกิ่งไม้ หรือการหมอบในเรือมุดเข้าใต้กิ่งไม้ ลดการปะทะ กับสิ่งกีดขวาง คือ กิ่งไม้ กอไม้ กอหญ้า โขดหิน น้ำตก น้ำวน หรือกระแสน้ำม้วนกลับ ตลอดจนการถ่ายน้ำหนักในเรือยาง เพื่อให้เกิดความสมดุล ป้องกันการพลิกคว่ำ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความสนุกสนาน  การช่วยเหลือ ตลอดจนความมีน้ำใจซึ่งกันและกันตลอดระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร หรือประมาณ 2-3 ชั่วโมง เป็นความทรงจำแห่งมิตรภาพที่ยากจะลืมเลือน จุดเด่นของกิจกรรมการล่องแก่งลำน้ำเข็ก คือ ความสนุกสนาน ท้าทาย และปลอดภัย ซึ่งได้รับการยกย่องจากบรรดานักท่องเที่ยวให้เป็นสายน้ำที่มีความเหมาะสมสำหรับการล่องแก่งที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย

          ก่อนการล่องแก่งลำน้ำเข็ก นักท่องเที่ยวจะได้รับฟังการแนะนำขั้นตอนต่างๆ รวมทั้งได้รับการฝึกหัด การพาย การลอยตามกระแสน้ำ การขึ้น-ลง แพยาง และการรับฟังคำสั่งนายท้าย นักท่องเที่ยวจะต้องสวมใส่อุปกรณ์ชูชีพ และหมวกนิรภัย ที่จะช่วยลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุ นอกจากนี้ฝีพายประจำเรือ คือ นายหัวและนายท้าย ยังได้ผ่านการอบรมหลักสูตรการล่องแก่งที่ได้มาตรฐานสากล Best Practice จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

          ด้านสิ่งอำนวยความสะดวก และความสะดวกสบายของนักท่องเที่ยว ที่ใช้ระยะเวลา เพียง 30 นาทีจากตัวเมืองพิษณุโลก ก็สามารถลงล่องแก่งลำน้ำเข็กได้แล้ว นอกจากนี้ยังมีสถานพักแรม โรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหารที่ สวยงามใกล้กับจุดของการล่องแก่งลำน้ำเข็ก อยู่เป็นระยะ   

          ฤดูกาลที่เหมาะสมสำหรับการล่องแก่ง คือช่วงฤดูฝน ประมาณเดือนมิถุนายน - ตุลาคม ของทุกปี ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำฝน ซึ่งในปีนี้สามารถล่องแก่งลำน้ำเข็กได้ตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน

          นอกจากการล่องแก่งที่สนุกสนาน และท้าทายแล้ว นักท่องเที่ยวจะได้ชิมกาแฟแก่งซอง ซึ่งเป็นกาแฟท้องถิ่นพันธุ์อราบิก้า และโรบัสต้า ต้นตำรับแท้ ๆ ที่มีรสชาติกลมกล่อม ความเข้ม ความหอม เติมด้วยความมัน ตามแบบฉบับ “กาแฟแก่งซอง” ซึ่งเป็นกาแฟที่ปลูกอยู่ทั่วไปบริเวณตำบลแก่งโสภา ซึ่งจะมีร้านจำหน่ายกาแฟสด บริเวณน้ำตกแก่งซองจำนวนมาก จึงมีชื่อเรียกติดปากกันว่า “กาแฟแก่งซอง”  ผู้ที่นำเมล็ดพันธุ์กาแฟมาปลูกเป็นคนแรกในพื้นที่นี้ คือ จ่าสิบเอกทวี  ประวิทย์ชาติ ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2519 จนถึงปัจจุบันกาแฟแก่งซองเป็นที่ยอมรับของคอกาแฟ และผู้จำหน่ายกาแฟทั่วไปอย่างแพร่หลาย ซึ่งนิยมมารับซื้อไปจำหน่ายเป็นกาแฟสดในท้องถิ่นต่างๆ จำนวนมาก โดยอาจเปลี่ยนชื่อไปตามถิ่นที่จำหน่าย อาทิ ตามเส้นทางสายเหนือ และสถานีบริการน้ำมันในภาคเหนือตลอดเส้นทางทั้งภาค รวมถึงแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางด้วย

          ท่านผู้อ่านที่มีความสนใจ และรักการผจญภัย ชื่นชอบความท้าทายตื่นเต้นเร้าใจ คงจะพลาดไม่ได้สำหรับการเป็นผู้พิชิตลำน้ำเข็กในครั้งหนึ่งของชีวิต และชิมกาแฟสดในท้องถิ่นที่หอมกลมกล่อมขึ้นชื่อที่สุดอีกแห่งหนึ่งของไทย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพิษณุโลก
โทรศัพท์ 0-5525-2742-3 ทุกวัน ในเวลาราชการ (08.30-16.30 น.)

ละไมไทยแลนด์ดอทคอม