© copyright Lamaithailand 2003 All Rights Reserved บริษัท ละไม (ไทยแลนด์) จำกัด 299/783 สุขาภิบาล 5 แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพฯ 10220 โทร. 086-970-8319, 081-988-3531, 095-163-6592 E-mail : info@lamaithailand.com |
เกาะลันตา จ.กระบี่ Part II ไข่มุกที่สามารถนำมาประดับได้เลย โดยไม่ต้องเจียระไน เรื่อง / ภาพ โดย นายสุขใจ
หลังจากที่ผมนอนหลับพักผ่อนอย่างมีความสุขเมื่อคืนที่ผ่านมา เช้านี้ผมเดินทางมายังหาดบากันเตียง ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะลันตา หาดบากันเตียงมีทิวทัศน์งดงาม โอบล้อมไปด้วยภูเขาสูง มีหาดทรายขาว น้ำทะเลใสสะอาด สามารถลงเล่นน้ำได้ตลอดฤดูกาล ชายหาดทอดตัวเป็นแนวยาว เป็นหาดที่สงบมีความเป็นส่วนตัว หาดด้านนี้มีรีสอร์ทอยู่ไม่กี่แห่งครับ รีสอร์ทขนาดใหญ่ระดับห้าดาว ก็เห็นมี พิมาลัย รีสอร์ท แอนด์ สปา นี่แหละครับ นอกนั้นจะเป็นรีสอร์ทขนาดกะทัดรัด สไตล์เก๋ ๆ น่ารัก ๆ
วันที่ผมเข้าพักที่พิมาลัยนั้นเป็นวันดีครับ มีคู่บ่าวสาวจากนิวซีแลนด์และออสเตรเลียมาจัดพิธีแต่งงานกันที่นี่ ซึ่ง Wedding Package นี้เป็นหนึ่งในบริการของทางรีสอร์ท ที่มักจะมีคู่บ่าวสาวชาวต่างชาติมาจัดพิธีแต่งงานกันที่นี่ โดยเชิญแขกเหรื่อบินมาร่วมเป็นสักขีพยานด้วย พิธีจัดอยู่ที่ริมหาด ตกแต่งประดับประดาด้วยดอกไม้สดสวยงาม เป็นพิธีที่เรียบง่ายแต่ประทับใจทุกคน ผมเองก็แอบซึ้งไปกับเขาด้วย คำว่า “ บากันเตียง “ เข้าใจว่ามาจากภาษามลายู ซึ่งหาดนี้อยู่ใกล้กับเขตที่ทำการของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา และบริเวณเขตที่ทำการอุทยานฯ นั้นก็เป็นที่ตั้งของ ประภาคาร (Lighthouse) ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์คของเกาะลันตาก็ว่าได้ ตั้งอยู่ที่หน้าผาปลายเกาะ ประภาคารนี้มีไว้เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับเรือเดินทางที่แล่นผ่านไปมา เป็นหมายนำร่องในการเดินเรือโดยเฉพาะในยามค่ำคืน จากหาดบากันเตียงไปยังประภาคารนั้นระยะทางเพียง 6-7 กิโลเมตร แต่ใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง เนื่องจากเป็นทางขึ้นเขาแคบ ๆ ลาดชัน และถนนบางช่วงเป็นทางลูกรัง หากนำรถยนต์ขึ้นไป ผมแนะนำว่าควรจะเป็นรถประเภท 4WD และผู้ขับขี่ ควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษครับ แต่ก็มีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อย เช่ารถจักรยานเสือภูเขาหรือรถจักรยานยนต์ (อย่าลืมสวมหมวกกันน๊อคด้วยนะครับ) มาขับขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์กัน ไม่ผิดหวังเลยครับ โดยเส้นทางนั้นจะผ่านหมู่บ้าน, รีสอร์ทเล็ก ๆ สลับกับป่าเขา และชายฝั่งทะเล แล้วยังมีร้านขายอาหาร ขายเครื่องดื่มเล็ก ๆ อยู่ระหว่างทาง ให้นักท่องเที่ยวแวะพักเหนื่อยด้วย พอขึ้นไปถึงยังเขตที่ทำการของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา บริเวณนั้นเป็นจุดชมวิวและชมพระอาทิตย์ตกที่งดงามเกินคำบรรยาย ชายหาดโตนดโค้งเว้าสวยงาม เงียบสงบ มองไกลออกไปจะเห็นเกาะไหง เกาะรอก ซึ่งเป็นเกาะที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาเช่นกัน
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ได้รับการประกาศจัดตั้งขึ้นเป็นลำดับที่ 62 ของประเทศไทย เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ.2533 มีพื้นที่รวม 134 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 83,750 ไร่ ประกอบไปด้วยเกาะแก่งต่าง ๆ รวมทั้งสิ้น 25 เกาะ ซึ่งแต่ละเกาะก็มีความสวยงามโดดเด่นแตกต่างกันไปตามภูมิสัณฐาน ลักษณะโดยทั่วไปเป็นภูเขาสูงชัน มีส่วนที่เป็นพื้นที่ราบอยู่น้อยมาก มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง เนื่องจากมีระบบนิเวศน์ของป่าดิบชื้น ด้านทรัพยากรทางทะเลนั้น มีความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศน์ใต้น้ำอยู่มาก ประกอบด้วย แนวปะการัง ดอกไม้ทะเล ปลา สัตว์ใต้ทะเลชนิดต่าง ๆ และยังเป็นแหล่งดำน้ำดูปะการัง ทั้งน้ำตื้น และน้ำลึกที่สวยงามมีชื่อเสียงอีกด้วย นอกจากนี้ เขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะทางประมาณ 1,725 เมตร ลัดเลาะไปตามผาหินริมทะเล ผ่านป่าดิบชื้น และจุดชมทิวทัศน์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด และเพื่อการเรียนรู้เรื่องราวที่น่าสนใจของระบบนิเวศน์ ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อีกที่น่าสนใจ เช่น พายคายัค กิจกรรมดูนก เดินป่าศึกษาธรรมชาติ กางเต้นท์พักแรม สามารถเข้าไปสอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ ณ ที่ทำการฯ ได้เลยครับ
หากท่านมาเที่ยวที่เกาะลันตา โปรแกรมเด็ดที่ไม่ควรพลาดเลยคือ โปรแกรมท่องทะเล ที่น่าสนใจคือ โปรแกรมเกาะรอก และท่องทะเลตรัง 4 เกาะ ซึ่งมีให้บริการทั้งแบบเรือด่วนธรรมดา และเรือสปีดโบ๊ท
เกาะรอก ประกอบด้วย เกาะรอกนอก และเกาะรอกใน ซึ่งทางทิศใต้ของเกาะ มีหลักเขตสยามที่เชื่อว่าปักไว้ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ห้า ทั้งสองเกาะเป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยแนวปะการังหลากชนิด ฝูงปลาน้อยใหญ่สีสันต่าง ๆ มากมาย ทั้งปลานกแก้ว ปลาโนรี ปลาสินสมุทร และครอบครัวปลาการ์ตูนที่น่ารัก น้ำทะเลใสสะอาด และมีหาดทรายขาวละเอียด ไปแล้วรับรองสนุกและประทับใจแน่นอนครับ ส่วนโปรแกรมท่องทะเลตรัง 4 เกาะ ก็สวยงามไม่แพ้กัน เขตน่านน้ำทะเลนั้นอยู่ติดกันกับเกาะลันตา การไปเที่ยวถ้ำมรกตแห่งเกาะมุก เราจะต่อแถวเกาะเสื้อชูชีพของคนข้างหน้า แล้วเท้าของเราที่อยู่ใต้น้ำก็ทำเหมือนถีบจักรยานใต้น้ำ ลอยตัวเข้าสู่ถ้ำมรกต ซึ่งได้รับการคัดเลือกให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว Unseen in Thailand จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งบริเวณนั้นน้ำทะเลจะเป็นสีเขียวใสราวกับมรกต พอลอดถ้ำออกมาแล้ว จะได้พบกับหาดทรายเล็ก ๆ ให้พักผ่อนเล่นน้ำได้ แล้วจุดต่อมาก็คือเกาะกระดาน ที่นี่มีชายหาดสวยงามที่สุดของจังหวัดตรัง จะเล่นน้ำทะเลกับหาดทราย หรือจะดำน้ำออกไปดูปลาดาวก็ได้ ส่วนเกาะเชือกและเกาะม้านั้น เป็นเกาะโดด ๆ อยู่กลางทะเล ซึ่งขึ้นชื่อมากในเรื่องดำน้ำดูปะการังอ่อนเจ็ดสี ดอกไม้ทะเลสีสด ๆ สวยงาม ที่พลิ้วไหวโอนเอนไปตามกระแสน้ำ รวมทั้งฝูงปลาต่าง ๆ ยิ่งไปตอนที่น้ำลดระดับจะยิ่งสวยมากน่าประทับใจ ผมรับรองได้ว่าโปรแกรมท่องทะเลอันดามันนั้น ไม่ว่าจะมาสักกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อเลยครับ
พอตกเย็น ผมก็กลับเข้ามาที่รีสอร์ท เดินเล่นริมหาด เฝ้ามองพระอาทิตย์ตกดิน เป็นแสงอ่อน ๆ สีส้ม ๆ บรรยากาศสุดโรแมนติคอย่าบอกใคร ส่วนอาหารค่ำของผมคืนนี้ที่ห้องอาหารรักทะเล อยู่ริมหาดนี่แหละครับ ดินเนอร์มื้อนี้เป็น Seafood Buffet Dinner ซึ่ง Mr. Philippe Sizaret Resident Manager ของพิมาลัย ดูแลเรื่องอาหารค่ำมื้อนี้ให้ผม และผมชอบตรงที่มีนักดนตรีมาขับกล่อมดนตรีในแบบ Acoustic Live ให้ฟังเพลิน ๆ เคล้าเสียงคลื่น ซึ่งทำให้มื้อนี้ของผมอร่อยและประทับใจมากครับ
คืนนี้ผมพักที่ พิมาลัย รีสอร์ท แอนด์ สปา ห้องพักหรูหรา โอ่อ่า กว้างขวาง มีเครื่องอำนวยความสะดวกพร้อม พรุ่งนี้เช้าผมต้องอำลาเกาะลันตาเสียทีแล้วล่ะครับ เพื่อที่จะเดินทางเข้าเมืองกระบี่กันต่อ
ขอขอบคุณ พิมาลัย รีสอร์ท แอนด์ สปา และทีมงาน
|