© copyright Lamaithailand 2003 All Rights Reserved บริษัท ละไม (ไทยแลนด์) จำกัด 299/783 สุขาภิบาล 5 แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพฯ 10220 โทร. 086-970-8319, 081-988-3531, 095-163-6592 E-mail : info@lamaithailand.com |
พระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพมหานคร ได้รับการสถาปนาเป็นราชธานีของไทยมาตั้งแต่ พ.ศ. 2325 เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ เป็นพระปฐมกษัตริย์แห่งบรมราชจักรีวงศ์ พระองค์ได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชวังทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากเป็นชัยภูมิที่เหมาะสม ทั้งยังให้สร้างพระอารามหลวงขึ้นในเขตพระราชวัง และพระราชทานนามพระอารามว่า วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยใช้เวลาสร้าง 2 ปี ส่วนการสร้างพระนครใช้เวลา 3 ปีจึงแล้วเสร็จ อาณาบริเวณ พระบรมมหาราชวัง มีพื้นที่ประมาณ 152 ไร่ โดยวางผังพระที่นั่งต่าง ๆ แบบเดียวกันกับพระราชวังหลวงที่กรุงศรีอยุธยา ประกอบไปด้วย พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เป็นพระมหาปราสาทองค์แรกที่สร้างขึ้นในพระราชวังหลวง เดิมชื่อพระที่นั่งอมรินทราภิเษกมหาปราสาท ต่อมาในปีพ.ศ. 2332 ได้เกิดฟ้าผ่าที่ยอดปราสาทและเกิดเพลิงไหม้ขึ้น พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก จึงโปรดเกล้าฯ ให้รื้อปราสาทองค์เก่า และสร้างปราสาทองค์ใหม่ขึ้นมาแทน แล้วพระราชทานนามว่า พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เป็นที่ประดิษฐานพระบรมศพพระมหากษัตริย์ สมเด็จพระอัครมเหสี และพระบรมวงศานุวงศ์บางพระองค์ และยังใช้ในพระราชพิธีพระราชกุศลต่าง ๆ รวมทั้งพระราชพิธีฉัตรมงคล พระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท สร้างจากไม้ทั้งหลัง ตั้งอยู่ด้านตะวันออกของพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 โปรดฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อเป็นพลับพลาสำหรับประทับทรงพระราชยานรับส่งเสด็จในขบวนพยุหยาตรา และประทับเปลื้องเครื่องในงานพระราชพิธีที่มีขบวนแห่ พระที่นั่งพิมานรัตยา สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 สำหรับเป็นที่บรรทมและใช้เป็นที่ชุมนุมมหาสมาคมสำหรับพระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชบริพารฝ่ายในเข้ารับพระราชทานเครื่องอิสริยยศและเครื่องราชอิสริยาภรณ์ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เป็นสถาปัตยกรรมแบบผสมยุโรปและไทย เนื่องจากผู้ออกแบบเป็นสถาปนิกชาวอังกฤษ และเจ้าพระยาภาณุวงศ์มหาโกษาธิบดี (ท้วม บุนนาค) เป็นแม่กอง องค์พระที่นั่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบยุโรป แต่หลังคาสร้างเป็นสถาปัตยกรรมแบบไทย ใช้เป็นที่รับรองพระราชอาคันตุกะชั้นพระราชาธิบดีหรือชั้นประมุขของรัฐ นอกจากนี้ยังมีหมู่พระที่นั่งที่สำคัญองค์อื่น ๆ อีกมากมาย วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) อยู่ในเขตพระราชฐานชั้นนอก ด้านทิศตะวันออกของพระบรมมหาราชวัง พระอุโบสถ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) พระคู่บ้านคู่เมืองของไทย เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ แกะสลักมาจากแก้วสีเขียว หรือหยกทั้งก้อน หน้าตักกว้าง 48.3 ซม. ความสูงรวมฐาน 66 ซม. มีเครื่องทรง 3 ฤดู คือ ฤดูร้อน ฤดูฝน ฤดูหนาว พระราชพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงกระทำปีละ 3 ครั้ง เครื่องทรงฤดูร้อน เปลี่ยนในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 4 เครื่องทรงฤดูฝน เปลี่ยนในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 เครื่องทรงฤดูหนาว เปลี่ยนในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 12 สิ่งที่น่าสนใจต่าง ๆ ภายในวัด ปราสาทพระเทพบิดร ปราสาทรูปจัตุรมุข มียอดปรางค์ประดับนภศูลและมงกุฎ ซุ้มประตูหน้าต่างเป็นทรงมงกุฎ บานประตูหน้าต่างเขียนลายรดน้ำ ผนังด้านนอกและเสาประดับกระเบื้องเคลือบ สลับลายปิดทอง ผนังภายในเขียนสีลายพุ่มข้าวบิณฑ์ ด้านหน้าปราสาทมีรูปสัตว์หิมพานต์ เป็นรูปหล่อด้วยโลหะ สร้างรวม 7 คู่ พระสุวรรณเจดีย์ 2 องค์ ตั้งอยู่ด้านหน้าปราสาทพระเทพบิดร รัชกาลที่ 1 ทรงสร้างขึ้นเพื่ออุทิศถวายแด่สมเด็จพระบรมราชชนกและพระบรมราชชนนี เป็นเจดีย์เหลี่ยมย่อมุม ที่ฐานประดับด้วยยักษ์แบกและกระบี่แบก องค์ละ 20 ตน พระมณฑป ตั้งอยู่ด้านหลังปราสาทพระเทพบิดร สำหรับประดิษฐานพระไตรปิฎกฉบับทอง ซึ่งสังคายนาในสมัยรัชกาลที่ 1 นครวัดจำลอง เริ่มสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 โดยพระองค์ให้สร้างถ่ายแบบมาจากปราสาทหินนครวัดในประเทศกัมพูชา แต่การก่อสร้างมาแล้วเสร็จในสมัยรัชกาลที่ 5 พระระเบียง ผนังพระระเบียงด้านใน มีจิตรกรรมฝาผนังเรื่องรามเกียรติ์ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่องตามฉบับพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 1 มีทั้งหมด 178 ห้อง พระอัษฎามหาเจดีย์ หรือ พระปรางค์ 8 องค์ ตั้งเรียงรายอยู่ทางด้านหน้าของวัด รัชกาลที่ 1 สร้างอุทิศถวายแด่ปูนียบุคคลและวัตถุในพุทธศาสนา ยักษ์ทวารบาล ตั้งประจำอยู่ที่ช่องประตูพระระเบียงรวม 6 คู่ หันหน้าเข้าหาพระอุโบสถ รูปฤาษีและแท่นบดยา ตั้งอยู่ตรงประตูทางเข้าด้านทิศตะวันตกของวัด ฤาษีถือว่าเป็นครูของการแพทย์แผนโบราณ ล้นเกล้ารัชกาลที่ 3 โปรดฯ ให้หล่อรูปฤาษีขึ้นด้วยสัมฤทธิ์ มีแท่นบดยา แล้วให้ประชาชนนำยามาบด เพื่อให้ยานั้นมีความศักดิ์สิทธิ์มากยิ่งขึ้น พระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เปิดให้ประชาชนเข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 15.30 น. ชาวไทยไม่เสียค่าเข้าชม |