ReadyPlanet.com
ละไม มิวสิค
ละไม ไทยแลนด์
ละไม วาไรตี้
ละไม ต่างแดน
เกี่ยวกับเรา
ติดต่อเรา




โสมเกาหลี

โสมเกาหลี                                                                                             

 

เรื่องโดย กิมจิ                                                                             

 

            ถ้าพูดถึงชนชาติที่ห่วงใยดูแลในเรื่องสุขภาพแล้ว ชาวเกาหลีไม่แพ้ชาติอื่นเลย โดยเฉพาะโสมเกาหลีที่ทั่วโลกรู้จักกันดี   โสม หรือ จินเซง (Ginseng) ในภาษาอังกฤษ แต่ชาวเกาหลีออกเสียงว่า อินซัม  โสม มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Panex Ginseng C.A. Meyer  ตั้งชื่อโดย C.A. Meyer  เป็นชาวรัสเซีย เมื่อปีพ.ศ. 2376  คำว่า Panex เป็นภาษาละติน หมายถึง การรักษาโรคให้หาย  โสมจัดเป็นพืชสมุนไพร มักเจริญเติบโตในที่ที่มีอากาศหนาวเย็น คือบริเวณเส้นรุ้ง 22-48 องศาเหนือ และเส้นแวง 85-140 องศาตะวันออก ได้แก่ แถบประเทศเกาหลี จีน ญี่ปุ่น  ตลอดจนเส้นแวง 70-97 องศาตะวันตก ได้แก่ประเทศสหรัฐอเมริกา 

 

พันธุ์ของโสมนั้นมีหลายพันธุ์ ปลูกในหลายประเทศ อาทิ Panex Ginseng  เป็นโสมปลูกในเกาหลี  Panex quinquefolium  ปลูกในอเมริกาเหนือ Panex notoginseng ปลูกมากในจีน  Panex trifolius  ปลูกมากในแถบอเมริกาตะวันออกเฉียงเหนือ Panex pseudoginseng ปลูกมาในเนปาลและเทือกเขาหิมาลัย  Panex japonicus ปลูกมากในญี่ปุ่น

 

โสมมีทั้งโสมที่ขึ้นอยู่ในป่าตามธรรมชาติ และโสมที่มนุษย์ปลูกขึ้น รากโสมนั้นมีลักษณะคล้ายร่างกายมนุษย์ ตามตำรายาของจีนสมัยโบราณนั้น กล่าวว่า ยิ่งโสมมีลักษณะใกล้เคียงมนุษย์มากเท่าไร ก็แสดงว่าโสมนั้นมีคุณค่ามาก มีราคาแพง และโสมป่าจะมีคุณประโยชน์มากกว่าโสมปลูก ชาวบ้านพูดกันว่าโสมป่าที่ขึ้นตามธรรมชาตินั้นมีค่าดังทองคำ ในสมัยโบราณจึงมีการออกป่าเพื่อหาโสมกันมาก ก่อนที่จะออกป่าหาโสมนั้นจะต้องมีการทำพิธีต่าง ๆ เพื่อให้ร่างกายของนายพรานโสม มีความบริสุทธิ์ เช่น ชำระล้างร่างกายในธารน้ำเย็นก่อนเข้าป่า มีการไหว้ขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้คุ้มครองตนจากสัตว์ร้ายในป่า และขอให้ได้พบโสมตามที่ต้องการ มีตำนานเล่ากันว่า ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของจีน ในช่วงเวลาค่ำคืน ชาวบ้านมักจะถูกรบกวนโดยเสียงร่ำร้องของผู้ชายอย่างมาก จนกระทั่งคืนหนึ่งชาวบ้านได้ระดมคนกันออกค้นหาต้นเสียงนั้น พบว่าเสียงผู้ชายทีที่ร่ำร้องนั้นมาจากใต้ดิน จึงได้ทำการขุดเจาะและได้พบรากไม้ใหญ่ซึ่งมีลักษณะเหมือนคน ต่อมามีการเล่าว่ารากไม้นี้เป็นวิญญาณจากสรวงสวรรค์ที่ถูกส่งมายังโลกมนุษย์ซึ่งถูกสาบเป็นเวลาสามร้อยปี กว่าที่จะสามารถเปลี่ยนเป็นมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์ แต่ถึงแม้ว่าเปลี่ยนเป็นมนุษย์แล้ว สิ่งที่แตกต่างก็คือ เลือดของมนุษย์โสมนี้จะมีสีขาวและแค่เลือดโสมเพียงหยดเดียวก็สามารถชุบชีวิตคนตายให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้

 

ในปัจจุบันโสมป่านั้นหายากเต็มที หรืออาจจะสูญพันธุ์ไปหมดแล้ว ชาวเกาหลีจึงนิยมทำแปลงปลูกโสมเองบริเวณเชิงเขา เวลาเรานั่งรถไปตามชนบทจะเห็นแปลงโสมอยู่มากมาย ซึ่งเป็นทัศนียภาพที่สวยงามอีกแบบหนึ่ง เกษตรกรเขาจะนำเอาพลาสติคมาขึงแล้วคลุมด้วยหญ้าฟางเป็นหลังคา การปลูกโสมนั้นเขาใช้เมล็ดเพาะ ใช้เวลาปลูกทั้งหมด 6 ปี วิธีการปลูกคร่าว ๆ ดังนี้

 

ปีที่หนึ่ง             ราวกลางเดือนกรกฎาคม                       เป็นการรวบรวมเมล็ดพันธุ์

           ปลายกรกฎาคม – ต้นสิงหาคม               เป็นช่วงคัดเมล็ดพันธุ์

           ปลายตุลาคม-ต้นพฤศจิกายน                 เริ่มหว่านเมล็ด

           จนผ่านหน้าหนาวไปจนถึงกลางเดือนเมษายน

ปีที่สอง              เมล็ดเริ่มเพาะตัว                                ในกลางเดือนเมษายน

            ทำหลังคาคลุมด้วยฟาง                        ตุลาคม

จนผ่านหน้าหนาวไปจนถึงปลายเดือนมีนาคม

ปีที่สาม              ย้ายต้นอ่อนมาไว้ที่เรือนปลูก                ปลายมีนาคม –ต้นเมษายน

            คลุมด้วยฟาง                                     ตุลาคม

จนผ่านหน้าหนาวไปจนถึงเดือนมีนาคม

ปีที่สี่                  เอาฟางที่คลุมออก                              มีนาคม

                        เริ่มพรวนดินใหม่                                พฤษภาคม – กันยายน

คลุมด้วยฟาง                                    ตุลาคม   จนผ่านหน้าหนาว

ตั้งแต่ปีที่สี่ จะวนซ้ำ ตามขั้นตอนนี้จนกระทั่งครบ 6 ปี

            โสมที่นิยมรับประทานควรมีอายุอย่างน้อย 6 ปี เมื่อปลูกครบ 6 ปีแล้วก็จะขุดหัวได้ ขุดลงไปประมาณ 5-10 ซ.ม. จึงเห็นรากโสม โสมต้นหนึ่งจะมีหัวเดียว ความสูงของหัวโสมประมาณ 7-10 ซ.ม.  ส่วนหัวโสมสดหัวเล็ก ๆ ที่มีอายุน้อยกว่า 6 ปีชาวเกาหลีนิยมนำมาตุ๋นกับซุปไก่ตัวเล็ก ๆ ยัดไส้ข้าวเหนียว รับประทานเป็นอาหาร หากท่านผู้อ่านได้มีโอกาสไปประเทศเกาหลีก็อย่าลืมแวะไปชิมซุปไก่ตุ๋นโสมสักชาม เขาว่ากันว่าถ้าไม่ได้ชิมก็เหมือนกับมาไม่ถึงเกาหลี

          มีการปลูกโสมกันอย่างกว้างขวางในประเทศเกาหลีซึ่งมีสภาพภูมิอากาศและคุณภาพของดินเหมาะสมต่อการเจริญเติบโต โสมควรปลูกในที่ร่มและมีการเจริญเติบโตช้าเมื่อเทียบกับพันธุ์ไม้ชนิดอื่น และยังค่อนข้างเปราะบาง ได้เคยมีการนำสารเคมีมาสังเคราะห์ขึ้นเพื่อขยายการเจริญเติบโตของมันให้รวดเร็วขึ้น โดยการปรับปรุงดิน ผลปรากฏว่า รากของโสมมักจะเน่าและตายลงเสมอ ดังนั้นโสมจะเจริญเติบโตได้ดีเฉพาะในดินธรรมชาติเท่านั้นและดูดซึมเอาแร่ธาตุที่มีประโยชน์มาเก็บไว้ในรากของโสมซึ่งต้องใช้เวลาอย่างน้อย 10-15 ปีถึงจะได้ลำต้นที่มีลักษณะที่สมบูรณ์อีกครั้ง นั่นหมายถึง โสมเมื่อปลูกครบ 6 ปีแล้วที่ดินตรงนั้นจะใช้ปลูกโสมไม่ได้เลยเป็นเวลา 15 ปีเพื่อรอให้ดินบริเวณนั้นมีแร่ธาตุที่อุดมสมบูรณ์พร้อมที่จะปลูกโสมในครั้งต่อไป

         โสมเกาหลีเป็นโสมที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับว่าเป็นโสมที่มีคุณภาพชั้นเยี่ยมของโลก ในทางการแพทย์จีนแผนโบราณ กล่าวว่า โสมเป็นเสมือนยาบำรุงกำลัง เชื่อกันว่าช่วยทำให้อวัยวะสำคัญในร่างการแข็งแรง ช่วยกระตุ้นหัวใจ บำรุงกระเพาะอาหาร ผ่อนคลายประสาท กล้ามเนี้อ ช่วยบำรุงผิวพรรณ เป็นส่วนผสมของยาแผนโบราณรักษาได้หลายโรค รากโสมที่นำมาผ่านขั้นตอนกรรมวิธีในการผลิตต่าง ๆ แล้วจะมีหลายประเภท อาทิ โสมชนิดเป็นราก รากโสมแช่ในน้ำผึ้ง  โสมชนิดไซรับ  โสมชนิดผง โสมชนิดแคปซูล มีบรรจุภัณฑ์หลากหลายรูปแบบทั้งแบบขวด แบบซอง ดังนั้นก่อนรับประทานควรศึกษาประเภทและวิธีรับประทานให้ละเอียดทุกขั้นตอนเสียก่อน อย่างไรก็ตาม โสมเหมาะกับผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศที่มีอากาศหนาวมากกว่า เมื่อทานแล้วทำให้ร่างกายมีพลังงานเกิดความอบอุ่น โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงไม่ควรรับประทาน แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ การรับประทานอาหารให้ครบห้าหมู่ และหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ น่าจะเป็นยาอายุวัฒนะที่ดีที่สุดในโลก




ละไม ต่างแดน

10 อันดับ เมืองน่าอยู่อาศัยที่สุดในโลก
เมลเบิร์น ออสเตรเลีย article
เวียนนา (Vienna) ออสเตรีย
Munich Germany
Madagascar’s Seven Wonders
สิงคโปร์ ( SINGAPORE )
เซิ่นเจิ้น (Shenzhen)
Pulau Langkawi
ลาว บ้านพี่ เมืองน้อง
Amsterdam
มาเลเซีย มนต์เสน่ห์ไม่เคยจางหาย
NEWYORK CITY
ท่องเมืองเวลลิงตัน ประเทศนิวซีแลนด์
Visit Korea
ประเทศเกาหลีใต้ ตอนที่ 2
Downunder ดินแดนแห่งซีกโลกใต้
มาเก๊า MACAU
เวียดนาม ตอนที่ 2
กำแพงเมืองจีน
เวียดนาม
YOKOSO JAPAN