ReadyPlanet.com
ละไม มิวสิค
ละไม ไทยแลนด์
ละไม วาไรตี้
ละไม ต่างแดน
เกี่ยวกับเรา
ติดต่อเรา




อุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม ราชบุรี

Siam Cultural Park

เรื่อง / ภาพ โดย นายสุขใจ

 

            ผมเคยไปที่พิพิทธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง จ.นครปฐม มาแล้ว และรู้สึกประทับใจกับงานศิลปะหุ่นขี้ผึ้งอันวิจิตรประณีตของไทย และเมื่อไม่นานมานี้ผมก็ได้มีโอกาสไปชมหุ่นขี้ผึ้งอีกแห่งหนึ่ง ที่ อุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม  (Siam Cultural Park) จ.ราชบุรี นอกจากหุ่นขี้ผึ้งแล้ว ผมว่าที่นี่มีอะไรที่หลากหลายให้พวกเราได้ชมกัน และสถานที่ก็ร่มรื่น ที่สำคัญค่าเข้าชมก็ไม่แพงด้วยครับ ตามผมมานะครับ ผมจะพาท่านผู้อ่านเข้าไปชมภายในอุทยานฯ กันครับ

 

ก่อนอื่นมาทำความรู้จัก อุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม  (Siam Cultural Park) กันก่อน ที่นี่เริ่มเปิดให้บริการเมื่อเดือนมิถุนายน 2549 มีพื้นที่ประมาณ 42 ไร่ ใช้เวลาในการเดินชมประมาณ 1 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย แต่ถ้าจะชมกันอย่างละเอียดอยู่ได้ถึง 2-3 ชั่วโมงก็ไม่เบื่อ
 

วัตถุประสงค์หลักในการก่อตั้ง คือ ต้องการให้อุทยานฯ แห่งนี้เป็นสถานที่ “พักใจ” แก่คนทั่วไปในสังคมที่มีแต่ความรีบเร่ง วุ่นวาย ดังเช่นในปัจจุบัน และที่นี่ยังนำเสนอแง่มุมศิลปะ ประติมากรรม วัฒนธรรม และวิถีความเป็นอยู่ที่งดงามในสังคมพุทธของไทย เพื่อสืบทอดสิ่งดีงามแบบไทยให้คงอยู่สืบต่อถึงชนรุ่นหลัง

ด้วยวัตถุประสงค์ดังกล่าว จึงทำให้ที่นี่นั้น เต็มเปี่ยมไปด้วยความสงบ ร่มรื่น เป็นธรรมชาติ มองไปทางไหนก็เห็นถึงความเขียวขจีของต้นไม้น้อยใหญ่ นอกจากนี้ยังปลูกพืชคลุมดิน พืชสมุนไพรต่าง ๆ และมีป้ายชื่อบอกชื่อพืชนั้น ๆ ด้วย ทำให้ได้รับความรู้เกี่ยวกับพืชสมุนไพร เพราะบ่อยครั้งที่ผมเคยได้ยินแต่ชื่อ แต่ไม่เคยเห็นลักษณะต้นจริง ๆ ว่าเป็นอย่างไร

 

ที่นี่แบ่งออกเป็นโซน ๆ ผมจะพาท่านผู้อ่านเข้าไปที่อาคารเชิดชูเกียรติ ก่อนเป็นแห่งแรก ที่นี่นำเสนอรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งไฟเบอร์กลาส ของบุคคลสำคัญ พร้อมเกียรติประวัติ โดยแต่ละท่านล้วนเป็นแบบอย่างในการทำคุณงามความดีในสาขาต่าง ๆ  เสียสละตัวเองเพื่อประโยชน์ส่วนรวม อาทิ

ศาสตราจารย์ หม่อมหลวงปิ่น  มาลากุล นักพัฒนาทางด้านการศึกษา ได้รับการยกย่องให้เป็นนักการศึกษาดีเด่นของโลก จากองค์การยูเนสโกเมื่อปี พ.ศ. 2546

            ศาสตราจารย์ สัญญา  ธรรมศักดิ์  นักกฎหมายผู้เที่ยงธรรม สมญานามของท่าน คือ  “เปาบุ้นจิ้นของเมืองไทย” 

            สืบ  นาคะเสถียร  นักอนุรักษ์ธรรมชาติผู้ปกป้องผืนป่าและชีวิตสัตว์ ที่เสียสละโดยเอาชีวิตเป็นเดิมพัน

            ประธานาธิบดีโฮจิมินห์  วีรบุรุษชาวนาผู้ยิ่งใหญ่ของชาวเวียดนาม ในการต่อสู้เพื่อเรียกร้องอิสรภาพให้ชาวเวียดนามจากชาติตะวันตก

            ประธานาธิบดีเหมาเจ๋อตุง  เป็นประธานาธิบดีที่สามารถรวมประเทศจีนได้เป็นปึกแผ่น และจัดตั้งรัฐบาลใหม่ นำพาประเทศจีนสู่ความเจริญและทันสมัย

 

            รูปปั้นแต่ละท่านได้ถูกจัดไว้ในห้องทำงานซึ่งจำลองมาจากห้องทำงานในชีวิตจริงของท่านเอง  เช่น ศาสตราจารย์ สัญญา  ธรรมศักดิ์ อิริยาบถในท่ายืนอยู่ในห้องทำงาน ซึ่งจำลองมาจากห้องทำงานของท่านในพระบรมมหาราชวัง  ประธานาธิบดีโฮจิมินห์  ในท่านั่งที่โต๊ะทำงาน ซึ่งจำลองมาจากบ้านที่ท่านใช้ชีวิตอยู่ในจังหวัดนครพนม

สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้เข้าชมนั้นรู้สึกเสมือนหุ่นรูปปั้นนั้นมีชีวิตจิตใจ เนื่องจากไม่มีเชือกกั้น ผู้เข้าชมสามารถเข้าถึงตัวหุ่นได้เลย แต่การชมหุ่นขี้ผึ้งที่ถูกต้องนั้น แนะนำว่าเราไม่ควรแตะต้องตัวหุ่นเลย เพราะจะทำให้หุ่นเสื่อมสภาพโดยเร็ว

 

               

           

ออกจากอาคารเชิดชูเกียรติ ก็ไปที่ลานพระ 3 สมัย เป็นลานกลางแจ้ง มีประติมากรรมพระพุทธรูปศิลปะ 3 ยุค 3 สมัย ให้ได้เห็นถึงความแตกต่างของศิลปะองค์พระ เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากศาสนา สังคม และวัฒนธรรมที่มีการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งบอกเล่าเรื่องราวของประวัติศาสตร์ในแต่ละยุคสมัยได้ องค์พระมีขนาด 6 ศอก 9 นิ้ว(129 นิ้ว) หล่อด้วยทองเหลืองและรมดำ

            องค์แรกเป็นพระพุทธรูปสมัยอยุธยา องค์พระมีลักษณะสูงโปร่ง พระพักตร์ค่อนข้างเหลี่ยม ออกเศร้า ๆ เนื่องจากสมัยอยุธยามีศึกสงคราม เส้นพระศกเป็นรูปหนามขนุน พระเกตุมาลาเป็นเปลวเพลิง ท่านั่งปางมารวิชัย จัดประดิษฐานอยู่บนฐานโบสถ์เก่า ที่จำลองมาจากอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา

            องค์ถัดมาเป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย ลักษณะองค์พระอ่อนช้อยงดงาม พระพักตร์รูปไข่ ลักษณะอมยิ้ม เนื่องจากในสมัยสุโขทัยมีแต่ความสงบสุข อยู่ดีกินดี พระเกตุมาลาเป็นเปลวเพลิง ชายสังฆาฎิเป็นชายเขี้ยวตะขาบยาวถึงพระนาภี ท่านั่งแบบขัดสมาธิราบ จำลองโบสถ์มาจากอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย-ศรีสัชนาลัย

            องค์สุดท้ายเป็นพระพุทธรูปสมัยเชียงแสน พระเกตุมาลาเป็นรูปดอกบัวตูม พระพักตร์ค่อนข้างดุ เนื่องจากสมัยนั้นบ้านเมืองไม่มีความเป็นปึกแผ่น อพยพย้ายถิ่นฐานบ่อยครั้ง เส้นพระศกเป็นก้นหอยขนาดใหญ่ ชายสังฆาฎิสั้นเหนือพระอุระ ท่านั่งแบบขัดสมาธิเพชร จำลองโบสถ์มาจากวัดป่าสัก

อ.เชียงแสน จ.เชียงราย

           

โซนต่อไปคือ ถ้ำชาดก องค์ประกอบของถ้ำนี้ส่วนใหญ่ทำด้วยไฟเบอร์กลาส บอกเล่าเรื่องราวพระเวสสันดรชาดก ตอนชูชกขอสองกุมาร เดินเข้าไปภายในถ้ำ ค่อนข้างมืด เพื่อสร้างบรรยากาศเหมือนอยู่ในถ้ำจริง ๆ พอเดินไปที่ตัวหุ่นแสงไฟก็จะเปิดและดับเองโดยอัตโนมัติ การหยิบยกเอาเรื่องราวของพระเวสสันดรชาดกมานำเสนอนั้น ก็เพื่อให้เป็นคติธรรมในเรื่องการให้ การเสียสละ ของพระเวสสันดร และชูชกฝ่ายรับผู้ไม่รู้จักคำว่าพอ  เขาใช้รูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งพระเวสสันดร ชูชก กัณหา และชาลี ในการถ่ายทอดเรื่องราวได้อย่างน่าสนใจ

           

เดินเที่ยวชมมาได้สักระยะหนึ่ง หากรู้สึกเหนื่อยแล้ว ก็แวะนั่งพักกันก่อนที่บ้านสมุนไพร อยู่ใกล้กับถ้ำชาดก ที่นี่มีจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำสมุนไพรชนิดต่าง ๆ ให้ดับกระหายกัน อย่างเช่น น้ำเก็กฮวย สรรพคุณแก้ร้อนใน  น้ำกระเจี๊ยบ ช่วยในเรื่องระบบขับถ่าย แก้โรคหัวใจ  น้ำมะตูม ช่วยขับเสมหะ แก้กระหายเป็นอย่างดี  ส่วนน้ำตะไคร้ แก้ท้องอืด เป็นต้นครับ ใกล้กันจะมีห้องสุขาสะอาดไว้บริการท่าน

 

หายเหนื่อยกันแล้ว ผมจะนำท่านไปชม กุฎิพระสงฆ์ในภาคต่าง ๆ กันครับ ลักษณะกุฎิในแต่ละภาคก็แตกต่างกันไป ภายในแต่ละกุฎิ มีหุ่นขี้ผึ้งของพระสงฆ์ชื่อดังของแต่ละภาค เริ่มตั้งแต่

กุฎิพระสงฆ์ภาคกลาง ภายในกุฎิมีหุ่นขี้ผึ้ง สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) พระอริยสงฆ์ที่มีความแตกฉานในพระธรรมวินัยและธรรมปฏิบัติ ได้รับการสรรเสริญด้านสติปัญญาหลักแหลมจนเป็นที่รู้จัก คือพระนักเทศน์แห่งวัดระฆังโฆษิตาราม และ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริยายก (อยู่ ญาโณทัย) ทรงสอบได้เปรียญ 9 ประโยคเป็นองค์แรกในสมัยรัชกาลที่ 5 และทรงได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เป็นสมเด็จพระสังฆราชวงศ์ที่ 15 ณ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร

กุฎิพระสงฆ์ภาคอีสาน ภายในกุฎิมีหุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์ผู้มีความเชี่ยวชาญทางวิปัสสนากรรมฐาน ได้รับขนานนาม จากศิษยานุศิษย์ว่า “พระอาจารย์ใหญ่ แห่ง วัดป่าสุทธาวาส”  และ หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ พระสงฆ์ที่มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างเต็มเปี่ยม ท่านตั้งใจบำเพ็ญเพียรและธุดงค์ไปตามสถานที่ต่าง ๆ

กุฎิพระสงฆ์ภาคเหนือ ภายในกุฎิมีหุ่นขี้ผึ้ง พระครูบาศรีวิชัย สิริวิชโย “ นักบุญแห่งล้านนา” ท่านได้รวบรวมชาวเหนือผู้มีจิตศรัทธาเพื่อสร้างทางขึ้นดอยสุเทพ และได้จัดการสังคายนาพระไตรปิฎกฉบับล้านนาไทยเป็นครั้งแรก และ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ เป็นแบบอย่างของพระผู้ปฎิบัติชอบ จนเป็นที่เคารพของชาวพุทธทั้งหลาย

กุฎิพระสงฆ์ภาคใต้ ภายในกุฎิมีหุ่นขี้ผึ้ง หลวงปู่ทวด เป็นที่รู้จักกันในนาม “ หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด” ของศิษยานุศิษย์ทั้งหลาย พระอาจารย์ทิม  ธัมมธโร หลวงปู่องค์แรกที่สร้างรูปลักษณะของหลวงปู่ทวดจากนิมิตจนทำให้พุทธศาสนิกชนทั่วไปได้รู้จักรูปลักษณ์ของหลวงปู่ทวด

นอกจากนี้ยังมี หอสวดมนต์ ซึ่ง ภายในกุฎิมีหุ่นขี้ผึ้งพระสงฆ์ชื่อดังอีก 5 รูปด้วยกัน ผมสังเกตเห็น ผู้ที่เข้ามาชมในกุฎิพระนั้น เขาจะกราบไหว้อย่างนอบน้อม บ้างก็นำพวกมาลัยมาถวายพระ บ้างก็นำเหรียญบาทมาถวายใส่พาน ด้วยความเลื่อมใสศรัทธาที่มีอยู่ในจิตใจจริง ๆ

 

 

อีกโซนที่น่าสนใจมาก คือ บ้านไทยสี่ภาค ซึ่งปัจจุบันหาดูได้ยากเต็มที เป็นการจำลองที่อยู่อาศัยของคนไทยตามลักษณะทางสถาปัตยกรรมไทยของภาคต่าง ๆ เรียกว่า มาที่นี่แห่งเดียวได้เรียนรู้บ้านไทยครบทุกภาคเลยครับ

บ้านไทยภาคกลาง ลักษณะเป็นเรือนแฝด จำนวนห้องนอนมีน้อย มักนอนบนพื้นไม่นิยมนอนบนเตียง เรือนมีใต้ถุงสูง มีเสาจำนวนมาก

บ้านไทยภาคเหนือ เรือนยกพื้นสูง ฝาผนังจะเอนออกจากตัวเรือน เป็นเรือทึบ มีหน้าต่างน้อย การสร้างบ้านแบบนี้เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านเพื่อป้องกันการพัดของลมโดยเฉพาะในฤดูหนาว

บ้านไทยภาคอีสาน  ปลูกบ้านแบบใต้ถุนสูง เพื่อเอาไว้เป็นที่เลี้ยงสัตว์และประกอบหัตถกรรมในครัวเรือน ตัวเรือนมีลักษณะโปร่ง มีชานบ้านสำหรับนั่งพักผ่อนและใช้ตากเสื้อผ้า

บ้านไทยภาคใต้  มีฐานเสาทำด้วยปูน เพื่อป้องกันการสึกกร่อนเมื่อได้รับความชื้น จากฝนตก น้ำท่วม ลักษณะหลังคาเรียกว่า ทรงปั้นหยา จะมีความลาดเอียงมาก เพื่อช่วยระบายน้ำฝนได้สะดวกเนื่องจากภาคใต้ฝนตกชุก

แต่ละหลังมีการจัดหุ่นขี้ผึ้ง แสดงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ผู้คนท้องถิ่นในแต่ละภาค เช่น นั่งทำหัตถกรรมอยู่นอกเรือนชาน ทำกับข้าวอยู่ในครัว นั่งหวีผม นั่งเย็บผ้าบ้าง ท่านผู้อ่านคงสงสัยว่า หุ่นขี้ผึ้งเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในอาคารติดแอร์ แล้วไม่ละลายหรือ คืออย่างนี้ครับ หุ่นขี้ผึ้งที่นี่มีส่วนผสมของไฟเบอร์ กลาสอยู่มาก จึงสามารถอยู่กลางแจ้งได้ และมีเจ้าหน้าที่ดูแลทำความสะอาดให้กับหุ่นเป็นประจำ

 

มาถึงโซนสุดท้ายแล้วครับ ลานพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร มีรูปปั้นพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร เป็นศิลปะปลายสมัยราชวงศ์ซ้องของจีน ลานนี้ทำเป็นลักษณะสวนหย่อมให้คนมาพักผ่อนหย่อนใจ 

 

หากยังไม่รีบกลับ ก็ไปนั่งชมน้ำตกที่เขาจำลองมาจาก น้ำตกไทรโยค จ.กาญจนบุรี ก่อนก็ได้นะครับ เพื่อซึมซับบรรยากาศแห่งความสงบ ร่มรื่น

อ้อ ! สำหรับผู้สูงอายุ ผู้พิการ ก็มาเที่ยวชมที่นี่ได้นะครับ เพราะมีบริการร่มกันแดด และรถนั่งสำหรับผู้พิการ(Wheel Chair) ฟรี ครับ 
 

เดินทางมาเป็นหมู่คณะ และต้องการวิทยากรบรรยาย กรุณาแจ้งทางอุทยานฯ ล่วงหน้าก่อนจะเป็นการดีครับ

 

อุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม  

(Siam Cultural Park)  

โทร.  0 32381 401, 0 32381 404

ตั้งอยู่ที่  41/1 หมู่ 3 ต.วังเย็น อ.บางแพ

จ.ราชบุรี  70160

โทร.  0 32381 401, 0 32381 404 

โทรสาร  0 32381 403

 

เปิดบริการทุกวัน                                       เวลาจำหน่ายบัตร

วันจันทร์ – ศุกร์                                        09.00 – 16.00 น.

วันเสาร์, อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์         08.30 – 17.00 น.

 

                                              

 




ละไม วาไรตี้

Tawandang German Brewery
ซาฟารีเวิลด์ อาณาจักรแห่งความสุข
สวนสัตว์เปิดเขาเขียว
พิพิธภัณฑ์วิทย์ฯ คลอง 5 รังสิต
วัดถ้ำเสือ กระบี่
เมืองโบราณ
ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา
มาดามทุสโซ่ กรุงเทพฯ
ตรุษจีน
เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์
พิพิธภัณฑ์โชคชัย
พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ
พระราชวังสนามจันทร์
วัดเล่งเน่ยยี่ 2
ตุ๊กตุ๊กหัวกบ แลเมืองตรัง
วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี
ศิลป์แผ่นดิน (Arts of the Kingdom)
อันเดอร์ วอเตอร์ เวิลด์ พัทยา
พระนารายณ์ราชนิเวศน์ จ.ลพบุรี
พระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
พระที่นั่งอนันตสมาคม
วิถี..ดั้งเดิม และพิพิธภัณฑ์ชุมชนชาวเกาะลันตา
พิพิธภัณฑ์อนันต์ชัยไทยโบท
FLIGHT OF THE GIBBON ชะนี....เหิรเวหา
มหัศจรรย์โลกใต้ท้องทะเลในกรุงเทพฯ article
ท้องฟ้าจำลอง
แดนดิน..ถิ่นไดโนเสาร์
Chiang Mai Zoo Aquarium
สิ่งมงคลคู่ตรุษจีน เสริมความเฮง
อันดามัน ชื่อนี้มีที่มา..
เบิร์จ กาลิฟา ตึกสูงที่สุดในโลกแห่งใหม่
เขาดินวนา” ครบรอบ 71 ปี
ขนมจีนเส้นสด กระบี่
วันฮาโลวีน (Halloween)
Night Dive กุ้งลายหินอ่อน
คริสต์มาส
เที่ยวปลอดภัยในหน้าหนาว
ปางอุ๋ง ปาย มันส์ ฮา
เมื่อปลาใหญ่ไล่ล่าปลาเล็ก
ไหว้พระ ที่สระบุรี
ถ่ายภาพเมื่อ ฟ้าหม่น ทะเลหมอง
ตำนาน ดอกกุหลาบ
แสตมป์ทองคำ
หัตถศิลป์ ศิลปาชีพ เทิดพระเกียรติ 80 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
เรื่องของเต่าทะเล
โครงการทำความสะอาดบ้านปลาทะเลตรัง
Amazing Balloon Amazing Festival Korat