อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ชมทุ่งกระเจียวบานและลานหินแปลก
              

        

         ย่างเข้าฤดูฝนกันแล้ว ทั่วประเทศไทยฝนก็เริ่มตกพร่ำๆ สำหรับคนเมืองเวลาฝนตกมันมักจะมาพร้อมกับปัญหารถติดซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเบื่อไม่ใช่น้อย ดีไม่ดีทำเอาไม่อยากจะออกจากบ้านไปเที่ยวที่ไหน แต่ถ้าจะให้มัวนั่งจับเจ่าเฝ้าฟ้าฝนอยู่ในบ้านก็คงไม่สนุกแน่ อยู่ใต้ฟ้าอย่ากลัวฝนครับ หนีออกนอกเมืองไปเที่ยวตะลุยฝนให้ชื่นฉ่ำกันดีกว่า สถานที่แรกของการเที่ยวหน้าฝนคราวนี้เราจะพาทุกคนมุ่งหน้าสู่ “ทุ่งดอกกระเจียว” จังหวัดชัยภูมิ ไปชมลานดอกไม้สีชมพูแห่งฤดูฝนกันเลยครับ

         

         เราออกเดินทางสู่อำเภอเทพสถิต เพื่อไปยัง “อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม” เพราะช่วงนี้เป็นช่วง “เทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวงาม ปี 2555” ของจังหวัดชัยภูมิ แน่นอนว่าพระเอกของเราในครั้งนี้คือ ดอกกระเจียวสีชมพูสดใสที่บานรอเต็มทุ่ง ซึ่งดอกกระเจียวจะบานชูช่ออวดความงามให้เราได้ชมกันแค่ปีละครั้งเท่านั้น ถ้าอยากจะเห็นดอกกระเจียวบานแน่นทุ่งเราแนะนำว่าให้มากันในช่วงตั้งแต่ปลายๆ เดือนมิถุนายน-สิงหาคม ถึงแม้ช่วงนี้อาจจะต้องเสี่ยงกับการเจอฝนกันหน่อย แต่รับรองว่าคุ้มค่าครับ เพราะนอกจากดอกกระเจียวสีชมพูจะบานสะพรั่งแล้วเรายังจะได้เห็นหมอกฟุ้งกระจายอยู่เต็มพื้นที่ ทำให้ภาพที่เห็นเพิ่มความงดงามขึ้นไปอีกหลายเท่า ตลอดเส้นทางเดินที่ทอดยาวคดเคี้ยวไปตามจุดต่างๆ ของทุ่งนั้น เราจะได้แวะหยุดถ่ายรูปตามจุดต่างๆ กันอย่างจุใจ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจถ้าในช่วงเทศกาลจะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลกันมาชมความงามนี้กันอย่างแน่นขนัด แต่ที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงามก็ไม่ได้มีจุดสนใจอยู่แค่ทุ่งดอกกระเจียวเท่านั้นนะครับ เพราะหลังจากที่เราอิ่มเอมกับทุ่งดอกกระเจียวกันแล้ว เราจะไปแวะเที่ยวชมจุดท่องเที่ยวอื่นๆ ภายในอุทยานฯ กันด้วย

          

          ถัดจากทุ่งดอกกระเจียว จุดแรกเราจะต้องออกแรงเดินกันเล็กน้อย ยังไม่ทันจะเหนื่อยดีเราก็มาถึง “ผาสุดแผ่นดิน” ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 846 เมตร เลยทีเดียว เมื่อมายืนอยู่ที่บริเวณหน้าผาแล้ว เราจะได้เห็นทิวทัศน์ของแนวสันเขาพังเหย และที่ราบสลับซับซ้อนกันอย่างสวยงาม ส่วนสาเหตุที่เรียกพื้นที่ตรงนี้ว่าผาสุดแผ่นดินนั้น เนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้เกิดจากการดันตัวของแผ่นดินภาคกลางเข้าไปซ้อนอยู่ใต้แผ่นดินภาคอีสานทำให้เกิดแผ่นดินที่ยกตัวสูงขึ้น และยังเป็นเขตรอยต่อของ 3 ภาค อันได้แก่ พื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ภาคอีสาน พื้นที่จังหวัดลพบุรี ภาคกลาง และพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ภาคเหนือ ซึ่งที่จุดชมวิวนี้มีความสวยงามของผืนป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกาที่อยู่เบื้องล่าง และถึงแม้จะไม่ใช่ฤดูหนาว แต่สายฝนที่โปรยปรายลงมาก็ทำให้อากาศเย็นชุ่มฉ่ำ และยังมีหมอกกลุ่มใหญ่ลอยเอื่อยให้เราชมความงามได้อย่างจุใจ

         พอออกจากผาสุดแผ่นดินแล้ว เราจะไปแวะกันที่ “ลานหินงาม” ซึ่งถือเป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งของอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม เพราะตามชื่อของอุทยานแล้วก็พอจะทำให้เราเดาได้ว่าที่นี่จะต้องมีหินสวยๆ ให้ได้ชมกันอย่างแน่นอน และที่ลานหินงามนี้ก็เต็มไปด้วยก้อนหินน้อยใหญ่ รูปร่างแปลกตา ตั้งกระจายตัวกันอยู่ในพื้นที่กว่า 10 ไร่ เกิดจากการที่น้ำและลม กัดเซาะเนื้อดินและหินมาเป็นเวลานานนับล้านปี จนเกิดเป็นหินรูปต่างๆ อย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งหินที่เด่นๆ ของลานหินงามนั้นก็ได้แก่ หินรูปถ้วยฟุตบอลฟีฟ่า หินเรด้า มอหำตั้ง เป็นต้น แต่ว่ารูปทรงของหินจะเหมือนอย่างที่ชื่อหรือไม่นั้นคงต้องอาศัยจินตนาการประกอบกันไปด้วย แต่ที่แน่ๆ นอกจากรูปทรงของกินที่น่าสนใจแล้ว ทิวทัศน์ที่มองหินจากบนลานหินนี้ก็สวยงามไม่น้อยเช่นกัน

         

           ไหนๆ ในช่วงนี้ก็เป็นช่วงเทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวงามแล้ว ถือโอกาสหนีฝนในเมืองมาเจอฝนเย็นๆ ที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิกันดูนะครับ รับรองว่าจะต้องประทับใจไปกับความงดงามตระกาลตาของสิ่งที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้น ยิ่งถ้าใครยังไม่เคยมีโอกาสมาเยี่ยมเยือนทุ่งดอกกระเจียวด้วยแล้ว คงต้องบอกว่าให้รีบมาเที่ยวชมความสวยงามนี้ด้วยตาตัวเองซักครั้ง ถ้าพลาดโอกาสในปีนี้คงต้องตั้งตารออีกทีปีหน้าเลยนะครับ

ขอบคุณ เรื่อง/ภาพ : The Trippacker