สายการบินเอมิเรตส์เปิดให้บริการแอร์บัส A380 สู่โจฮันเนสเบิร์ก

มอบประสบการณ์การบินอย่างเหนือระดับแก่ผู้โดยสารในประเทศไทย

- เส้นทางแรกในแอฟริกาที่ให้บริการโดยเครื่องบินแอร์บัส A380 สายการบินเอมิเรตส์
- การบริการครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจาก รายได้ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 34 ในแถบแอฟริกาใต้ ในปีงบประมาณ 2553-2554

          สายการบินเอมิเรตส์ หนึ่งในสายการบินที่เติบโตรวดเร็วที่สุดในโลก ประกาศให้เมืองโจฮันเนสเบิร์ก ศูนย์กลางทางด้านอุตสาหกรรม และ เศรษฐกิจ ของแอฟริกาใต้ เป็นเส้นทางล่าสุดสำหรับการให้บริการแอร์บัส A380 ของสายการบิน โดยจะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2554 เป็นต้นไป

        การประกาศการให้บริการด้วยแอร์บัส A380 ไปยังแอฟริกาใต้ เป็นครั้งแรก ของสายการบินเอมิเรตส์นี้ เกิดขึ้นหลังจากที่สายการบินได้ชี้แจงผลประกอบการปีงบประมาณ 2553-2554 ได้ไม่นาน แสดงให้เห็นว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวแอฟริกาใต้ที่เดินทางโดยสายการบินเอมิเรตส์เพิ่มขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง โดยจำนวนผู้โดยสารทั้งหมดพุ่งสูงขึ้นร้อยละ 12 จากปีที่ผ่านมา โดยรวมแล้ว รายได้จากตลาดแอฟริกาใต้เองเติบโตขึ้นอย่างมาก ถึงร้อยละ 34 จากปีงบประมาณ 2553-2554

        ในปีที่แอฟริกาใต้เป็นเจ้าภาพจัดงาน ฟีฟ่า 2010 อย่างสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีนั้น เป็นปีเดียวกับที่สายการบินเอมิเรตส์ได้บันทึกยอดที่เพิ่มขึ้นสูงของจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางเข้าสู่แอฟริกาใต้ โดยเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 20 จากปี 2553 ในฐานะผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการของงาน ฟีฟ่า สายการบินเอมิเรตส์ทำหน้าที่นำพาแฟนฟุตบอลจากกว่า 6 ทวีป ทั่วทุกมุมโลก ไปยังแอฟริกาใต้

        “เรามีความสัมพันธ์ และมีการร่วมมือที่ดีกับแอฟริกาใต้มาตั้งแต่ปี 2538 นับจากปีที่เราเริ่มให้บริการเส้นทางการบินสู่ประเทศนี้ จวบจนปัจจุบัน เรามีเครือข่ายนานาประเทศ ซึ่งรวมถึง เมืองโจฮันเนสเบิร์ก เคปทาวน์ และ เดอร์บัน ที่เชื่อมต่อกับเมืองดูไบ ด้วย 42 เที่ยวบิน ที่ให้บริการต่อเนื่องทั้งสัปดาห์”  ทิม คลาร์ก  ประธานสายการบินเอมิเรตส์ กล่าว “แนวโน้มที่เป็นมาอย่างสวยงามตลอด 12 เดือนที่ผ่านมา จะเป็นไปในทางที่ดียิ่งขึ้นไปอีก ด้วยการเปิดให้บริการแอร์บัส A380 เครื่องบินที่นำมาซึ่งมาตรฐานใหม่สำหรับการเดินทางทางอากาศ

        “แอร์บัส A380 ของเรา เป็นดั่งอนาคตของการคมนาคมทางอากาศ ทั้งในด้านประสบการณ์ในการเดินทางที่ผู้โดยสารได้รับ และ การคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม” ทิม คลาร์ก กล่าวเพิ่มเติม “การที่เราส่งเครื่องบินรุ่น A380 ไป โจฮันเนสเบิร์ก นั้น เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของทางสายการบินด้านการให้บริการในประเทศแอฟริกาใต้ รวมไปถึงการรองรับทั้งนักธุรกิจ และ นักท่องเที่ยว ประสงค์ที่จะสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ และ ความสบายบนเครื่องบินที่หาเทียบไม่ได้”

        เครื่องบินรุ่น A380 ของสายการบินเอมิเรตส์ มี 489 ที่นั่ง ในนั้น ประกอบด้วย ห้องสวีทส่วนตัว 14 ห้องสำหรับผู้โดยสารชั้นหนึ่ง 76 ที่นั่งแบบปรับนอนราบได้ สำหรับชั้นธุรกิจ และ 399 ที่นั่งสำหรับชั้นประหยัด ผู้โดยสารชั้นหนึ่งสามารถใช้บริการห้องอาบน้ำแบบสปาบนเครื่องจำนวน 2 ห้อง ผู้โดยสารชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจสามารถใช้บริการห้องรับรองผู้โดยสารบนเครื่องสูงระดับ 40,000 ฟุตจากพื้นดิน เครื่องดื่ม และ อาหารว่าง มีให้บริการตั้งแต่เครื่องบินอยู่ในระดับทรงตัว จนกระทั่งทำการลดระดับ 

        การบริการด้วยเครื่องบินแอร์บัส A380 จะทำการทุกวัน ด้วยเที่ยวบิน EK761 ออกจาก ดูไบ เวลา 04.40 น. (เวลาท้องถิ่น) และ ถึงสนามบินโออาร์ ทัมโบ อินเตอร์เนชั่นแนล แอร์พอร์ต เมืองโจฮันเนสเบิร์ก เวลา 10.50 น. (เวลาท้องถิ่น) ขากลับ EK762 ออกเดินทางจากโจฮันเนสเบิร์ก เวลา 14.10 น. (เวลาท้องถิ่น) และ ถึงดูไบ เวลา 00.10 น. (เวลาท้องถิ่น) วันรุ่งขึ้น

        เที่ยวบินจากโจฮันเนสเบิร์กที่จะเดินทางไปถึงดูไบนั้น เป็นตารางเวลาที่เอื้อต่อการเปลี่ยนเครื่องบินในการเดินทางต่อไปยังเมืองต่างๆในแถบยุโรปได้อย่างสะดวกสบาย โดย ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2554 เมืองเจนีวา จะเป็นเส้นทางใหม่ของสายการบิน ตามมาด้วย โคเปนฮาเกน ในวันที่ 1 สิงหาคม 2554 นับเป็นเส้นทางอันดับที่ 27 ในเครือข่ายยุโรปของสายการบิน นอกจากนี้ ผู้โดยสารยังสามารถเลือกเดินทางต่อไปยังหลากหลายเส้นทางจากดูไบ ทั้งในตะวันออกกลาง และ ตะวันออก อีกด้วย

        ผู้โดยสารที่ประสงค์แวะพักที่เมืองดูไบ จะได้พบกับหลากหลายสิ่งอันน่าตื่นตาตื่นใจ ณ เมืองที่ได้รับกล่าวขานว่าเป็น จุดแวะพักระหว่างทางที่ยอดเยี่ยมที่สุด เพราะเป็นสถานที่ตั้งของ สนามกอล์ฟมาตรฐานระดับโลก สกีในร่ม ห้องอาหารหรูหรา รวมไปถึง ซาฟารี ท่ามกลางทะเลทราย แม้แต่เรื่องช้อปปิ้ง ก็มีตั้งแต่ ทอง เพชร ตลาดเครื่องเทศนานาชนิด หรือจะเป็น ร้านแบรนด์เนมชั้นนำต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกสรร และยังหมายรวมถึงการชมวิวของเมืองนี้จากมุมสูง บนอาคาร เบิร์จ คาลิฟา อาคารที่สูงที่สุดในโลก

       โจฮันเนสเบิร์ก เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในทวีปแอฟริกาใต้ และ เป็นเมืองหลวงของจังหวัดเคาเตง จังหวัดที่มั่งคั่งทีสุดของแอฟริกาใต้ ซึ่งมีประชากรกว่า 9 ล้านคน เมืองนี้ตั้งอยู่แถบเทือกเขา Witwatersrand ซึ่งอุดมไปด้วยเหมืองแร่ และยังเป็นศูนย์กลางการค้าทอง และ เพชร อีกด้วย

       “ทางเรามีความยินดีอย่างยิ่ง ในการประกาศเปิดการให้บริการด้วยเครื่องบินแอร์บัส A380 ไปยังโจฮันเนสเบิร์ก โดยที่ผู้โดยสารจากประเทศไทยสามารถเดินทางไปแอฟริกาใต้ ผ่านเมืองดูไบ ได้อย่างสะดวกสบาย ผู้โดยสารจะได้ประสบการณ์การบินที่เหนือชั้น ไปกับเครื่องบินที่หรูหราที่สุดในโลก อย่างแอร์บัส A380 ที่จะนำท่านไปสู่เมืองที่มั่งคั่งที่สุดในแอฟริกาใต้” มร. คาหลิด บาร์ดาน ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทยและภูมิภาคอินโดจีนของสายการบินเอมิเรตส์ กล่าว

       การเปิดให้บริการเที่ยวบินใหม่ด้วยเครื่องบินแอร์บัส A380 นี้ ยังช่วยสนับสนุนความสัมพันธ์อันดีทางการค้าระหว่าง แอฟริกาใต้ และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อีกด้วย ซึ่งที่ผ่านมานับตั้งแต่ปี 2550 ได้มีการเจริญเติบโตมาอย่างต่อเนื่องถึงร้อยละ 8 ต่อปีจากปีก่อนหน้า มูลค่าทางการค้าเพิ่มขึ้นจาก 1,379,000 เหรียญสหรัฐ ในปี 2550 เป็น 1,749,000 เหรียญสหรัฐ ในปี 2553

        ขณะนี้ สายการบินเอมิเรตส์ให้บริการเที่ยวบินไปยังโจฮันเนสเบิร์ก 3 เที่ยว ต่อวัน ไปยัง เคป ทาวน์ 2 เที่ยว ต่อวัน และ ไปยังเดอร์บัน 1 เที่ยว ต่อวัน ฝูงบินอันประกอบไปด้วยเครื่องบินแอร์บัส A380 จำนวน 15 ลำ ให้บริการจากดูไบ ไปยัง ลอนดอน ฮีทโธรว์ (2 เที่ยวบิน ต่อวัน) แมเชสเตอร์ ปารีส ชาร์ล เดอ โกล โตรอนโต กรุงโซล กรุงเทพฯ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เจดดาห์ นิวยอร์ก ฮ่องกง ซิดนีย์ และ โอ๊คแลนด์

        ณ ปัจจุบัน เอมิเรตส์ มีเครือข่ายที่ให้บริการแก่ผู้โดยสารรวมถึงการขนส่งสินค้าทางอากาศ ในทวีปแอฟริกาทั้งหมด 19 แห่ง  

การให้บริการใหม่ด้วยเครื่องบินแอร์บัส A380 ไปสู่โจฮันเนสเบิร์ก
ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2554 เป็นต้นไป เที่ยวบิน EK 373 จะออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ในเวลา 21:20 น. และ ถึงดูไบเวลา 00.30 น. ของวันถัดไป จากนั้นผู้โดยสารสามารถเปลี่ยนเครื่องบินได้อย่างสะดวกสบาย ที่เมืองดุไบ โดยเที่ยวบิน EK 761 จะมุ่งหน้าไปยังโจฮันเนสเบิร์กจากดูไบ เวลา 04:40 น. สำหรับขากลับ เที่ยวบิน EK 762 จะออกเดินทางจากโจฮันเนสเบิร์ก เวลา 14:10 น. และ ถึงกรุงดูไบ เวลา 00:10 น. จากนั้น เที่ยวบิน EK 384 จะนำผู้โดยสารกลับกรุงเทพฯ โดยออกจากดูไบ เวลา 03:15 น.  และ ถึงกรุงเทพฯ เวลา 12:25 น.