ReadyPlanet.com
ละไม มิวสิค
ละไม ไทยแลนด์
ละไม วาไรตี้
ละไม ต่างแดน
เกี่ยวกับเรา
ติดต่อเรา




เที่ยวกระบี่ สวยบาดตา....ราคาบาดใจ ตอนที่ 2

เรื่อง / ภาพ  :  ละไมไทยแลนด์ดอทคอม
กุมภาพันธ์ 2552


         เช้าวันที่สองของทริปนี้ เป็นโปรแกรมร่วมกิจกรรม Free Diving ที่หมู่เกาะห้า ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ขอบอกว่าเป็นการเดินทางแบบสุดอลังการครับ เพราะเรือที่นำพาคณะของเราไปเกาะห้านั้นเป็นเรือที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดกระบี่ ใหญ่ขนาดไหนน่ะเหรอครับ ก็ขนาดรองรับได้ถึง 450 คน ท่านผู้อ่านครับ ทางจังหวัดใจป้ำขนาดไหน เอาเรือขนาด 450 คน มารับคณะของเรารวมเจ้าหน้าที่ด้วยก็ประมาณ 70-80 คน ต้องขอขอบคุณจริง ๆ ครับที่ทำให้ผมได้มีโอกาสขึ้นเรือลำมหึมาขนาดนี้ เรือลำนี้ชื่อ อ่าวนางปริ๊นเซส 2007 เป็นเรือปรับอากาศแอร์เย็นเฉียบ มีห้องน้ำแยกชาย-หญิง สะดวกสบายหายห่วง ผมขออนุญาตเล่าเรื่องส่วนตัวนิดนึง เมื่อปีที่แล้วผมมาที่เกาะลันตาและเกือบจะได้ไปเกาะห้าอยู่แล้วเชียว แต่บังเอิญติดธุระอะไรสักอย่างจึงทำให้ผมไม่สามารถอยู่ดำน้ำที่เกาะห้าได้ ซึ่งมันก็ค้างคาใจผมมาเป็นเวลา 1 ปี จนมาวันนี้ผมหายคาใจแล้วครับ ผมได้ไปเกาะห้าแล้ว....เย....


 

          จากท่าเรือที่หาดนพรัตน์ธาราเดินทางไปเกาะห้าใช้เวลาสองชั่วโมงเศษ ๆ เพื่อร่วมกิจกรรม Freediving กับ Mr. Guillaume Nery นักดำน้ำชาวฝรั่งเศส เจ้าของสถิติการดำน้ำแบบ Freediving ด้วยความลึก 109 เมตร ใช้เวลา 3 นาที 9 วินาที ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับการดำน้ำแบบ Freediving กันก่อนครับ ไม่ได้หมายความว่า ให้ดำน้ำแบบฟรี ๆ ไม่เสียค่าใช้จ่ายนะครับ แต่เป็นการดำน้ำแบบตัวเปล่า โดยไม่ใช้ถังออกซิเจนต่างหากล่ะครับ ถามว่าแล้วดำน้ำลงไปได้ไงโดยไม่ใช้ถังออกซิเจน เป็นเรื่องมหัศจรรย์มากครับ เขาสูดลมหายใจเพียง 1 อึดใจเท่านั้นแล้วดำลงไปในน้ำที่ความลึกเป็นร้อยเมตร เป็นความสามารถเฉพาะตัวจริง ๆ ห้ามลอกเลียนแบบนะครับ แต่เพื่อความปลอดภัยเขาจะผูกเชือกไว้ที่ข้อมือด้วยเผื่อมีอะไรจะได้ดึงเชือกขึ้นมาได้ ได้ยินเขาว่าถังออกซิเจนที่ใช้ดำน้ำแบบ Scuba มีอากาศอยู่ 3,000 ลิตร แต่ในปอดคนเราเก็บไว้ได้เพียง 10 ลิตร ทั้งอึ้งและทึ่งเลยใช่ไหมครับ อันที่จริงแล้ว รายละเอียดและวิธีการดำลงไปในน้ำทะเลลึกแบบนี้มันมีอะไรมากกว่านี้ครับ เป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้หาประสบการณ์กันเป็นสิบ ๆ ปีถึงจะทำได้แบบนี้ ในเมืองไทยถ้าผมจำไม่ผิดมีผู้ดำน้ำแบบ Freediving อย่างนี้ประมาณ 2-3 คน เยี่ยมยอดจริง ๆ ครับ

 

          หลังจากกิจกรรม Freediving แล้ว เรือก็นำเราไปยังจุด Snorkeling site เพื่อให้สื่อมวลชนร่วมกิจกรรม Snorkeling หรือดำผิวน้ำดูปะการังและฝูงปลาต่าง ๆ เป็นการดำน้ำสำหรับบุคคลทั่วไป โอ้โห...ปลาตัวใหญ่ ๆ ทั้งนั้นเลย ปะการังก็อุดมสมบูรณ์มาก แต่โดยทั่วไปแล้ว เกาะห้านั้นมีชื่อเสียงในเรื่องกิจกรรมดำน้ำลึกมากกว่าครับ ชาวต่างชาติรู้จักกันดีแต่ชาวไทยอาจจะไม่ค่อยรู้จักเท่าไร ดังนั้นหากท่านใดที่ชื่นชอบการดำน้ำลึกอยู่แล้ว ไม่ว่าจะ Freediving หรือ Scuba diving ก็เชิญที่เกาะห้าได้เลยครับ

 

          ตอนบ่าย เป็นโปรแกรมพิเศษ ชมการปีนผาแบบตัวเปล่า (Deep Water Soloing)ที่ไร่เล ระหว่างทาง เรือได้ล่องผ่านให้พวกเราได้ชมทะเลแหวก (Unseen in Thailand) เป็นของแถมอีกด้วย เมื่อเวลาน้ำทะเลลดระดับลงจะเห็นเป็นสันทรายเชื่อมต่อกันระหว่างเกาะไก่, เกาะทับ, เกาะหม้อเป็นความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่แปลกตามาก แล้วเรือก็พาเรามาที่ไร่เล เป็นจุดปีนผาที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก นักปีนผากำลังปีนป่ายบนหน้าผาแบบตัวเปล่าให้พวกเราชมกัน ขอบอกว่าเป็นความสามารถเฉพาะอีกแล้วครับท่าน นักปีนผาทุกคนเขาต้องฝึกซ้อมกันมาอย่างดี นานหลายปี จึงมาทำแบบนี้ได้ เพราะฉะนั้นห้ามเลียนแบบครับ จุดที่ปีนผานั้นเป็นหน้าผาริมทะเล นักปีนผาต้องไต่ขึ้นไปด้วยมือเปล่า ตัวเปล่าไม่มีเครื่องมือหรือสลิงอะไรช่วยทั้งนั้น พอปีนขึ้นไปจนถึงจุดที่พอใจแล้ว เวลาลง ปกติจะใช้สลิงช่วยในการโรยตัวจากหน้าผาลงมา แต่นี่ไม่มีสลิงช่วย วิธีการของเขาคือกระโดดลงทะเลแล้วว่ายน้ำมาขึ้นเรือที่ทีมงานจอดรออยู่ นับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ท้าทายนักปีนผาทั่วโลกให้มาพิสูจน์ โดยมีการจัดแข่งขันนานาชาติขึ้นทุกปี ในปีนี้ใช้ชื่องานว่า “ปีนผา ท้าควงไฟ 2009” ระหว่างวันที่ 17 – 19 เมษายน 2552 ที่ไร่เล ผู้สนใจเชิญร่วมงานได้ครับ

 

         หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับกิจกรรมในเส้นทางต่าง ๆ มาทั้งวันแล้ว มื้อค่ำทางจังหวัดเลี้ยงต้อนรับพวกเราที่ร้านอาหารเรือนไม้ อยู่ในตัวเมืองครับ เป็นร้านที่ตกแต่งอย่างเป็นธรรมชาติโดยใช้งานไม้เป็นส่วนใหญ่เพื่อเข้ากับคอนเซ็ปของร้าน สวยงามมากครับ เหมาะสำหรับรองรับแขกผู้ใหญ่ได้เลย เมนูเด็ดของร้านนี้เน้นอาหารท้องถิ่น อาทิ น้ำพริกกุ้งเสียบที่ใส่มาในครกเล็ก ๆ เป็นภาชนะ เก๋มากครับ รับประทานกับผักสดชนิดต่าง ๆ โดยเฉพาะสาหร่ายทะเลสด สีเขียว ๆ รสชาดออกเค็ม ๆ มัน ๆ ทานกับน้ำพริกอร่อยมากครับ กุ้งต้มกะทิกับใบเหมียง ปลาอินทรีย์ทอดซีอิ๊ว สะตอผัดเผ็ดใส่กุ้งนี่ก็เด็ดครับ มื้อนี้ทำให้ผมเจริญอาหารอีกแล้ว


 

         วันต่อมา หลังจากทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว รถก็มารับคณะพวกเราไปยังท่าเรือควนโอ ชุมชนบ้านบากัน อยู่ในเขต อบต.อ่าวลึกน้อยซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ใช้เวลาเดินทางจากอ่าวนางมาที่นี่ประมาณ 45 นาที พอคณะพวกเรามาถึงที่ท่าเรือ ก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากนายก อบต.อ่าวลึกน้อย นายสิทธิชัย วงสอาด และชาวบ้านชุมชนบ้านบากัน นำกาแฟ/โอวัลติล ขนมจาก ข้าวเหนียวปิ้ง ฝีมือชาวบ้านที่ตั้งใจทำมาเลี้ยงคณะสื่อมวลชนโดยเฉพาะ อย่างไรก็ขอขอบคุณมากครับ

          โปรแกรมวันนี้ เป็นการนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของตำบลอ่าวลึกน้อย ด้วยการนั่งเรือหัวโทงแบบชาวบ้านชาวประมงท้องถิ่น เพื่อไปชมภาพเขียนสีโบราณเก่าแก่มีอายุราว 3,000-5,000 ปีที่ปรากฎอยู่บริเวณถ้ำและผาหินของเทือกเขากาโรส ลักษณะของภาพเขียนเป็นรูปคน สัตว์ บางภาพเป็นรูปวงกลม เป็นลายเส้น เป็นขีด ๆ บ้างคล้ายรูปทรงเรขาคณิต สีที่ใช้วาดเป็นสีแดง สันนิษฐานว่า กลุ่มชนที่วาดภาพเหล่านี้อาจเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ และดำรงชีพด้วยทรัพยากรทางทะเลแถบนี้ เส้นทางในการล่องเรือไปชมภาพเขียนโบราณนั้น เลาะเลียบไปตามกระแสน้ำท่ามกลางผืนป่าโกงกางอันอุดมสมบูรณ์ สลับฉากด้วยแนวภูเขาหินปูนวางเรียงตัวกันลูกแล้วลูกเล่าเป็นภาพที่งดงามตามธรรมชาติตลอดเส้นทาง และยังมีความหลากหลายทางชีวภาพที่น่าสนใจ



 

          ช่วงสาย ๆ คณะของเราเปลี่ยนจากเรือหัวโทงของชาวบ้านมาลงเรือ Speed Boat ที่อ่าวมะขาม แล้วเดินทางต่อไปยังหมู่เกาะห้อง ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ได้รับรางวัลดีเด่นประเภทแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ จากการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยปี 2551 (Thailand Tourism Awards 2008) ซึ่งมีระบบนิเวศน์เขาหินปูน มีการรักษาสภาพธรรมชาติไว้เป็นอย่างดี ล่าสุดได้รับการคัดเลือกให้เป็นสถานที่ถ่ายทำโฆษณาชุด “เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก” ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยอีกด้วย

 

         พวกเราได้ล่องเรือไปชมความสวยงามของลากูนทะเลใน ซึ่งมีทางให้เรือเข้าออกเพียงทางเดียว ด้วยเหตุนี้น้ำทะเลจึงมีสีเขียวใสสะอาด สวยจับใจ แต่เดี๋ยวช่วงบ่าย รอเวลาให้ระดับน้ำทะเลลดลงเสียก่อน พวกเราจะกลับมาที่นี่อีกครั้ง เพื่อทำอะไรบางอย่าง.....อดใจรอหน่อยครับ แต่ตอนนี้เราเดินทางกันต่อไปยังเกาะผักเบี้ย เกาะไร่ และเกาะใกล้เคียง จนมาถึง ณ ชายหาดเกาะห้อง



 

          ชายหาดเกาะห้อง จัดเป็นชายหาดระดับห้าดาวของกระบี่ เป็นที่หลงใหลของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เนื่องจากหาดทรายเม็ดละเอียด น้ำทะเลมีสีเขียวใสราวมรกตตัดกับขอบฟ้าสีคราม โดยมีภูเขาหินปูนแบ่งกั้นกลางระหว่างขอบฟ้าและขอบน้ำ ชายหาดมีการจัดระเบียบแบ่งเป็นโซนสำหรับจอดเรือ และโซนสำหรับเล่นน้ำ นักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนนอนอาบแดด เล่นน้ำหยอกล้อกับฝูงปลาที่มักจะมารายล้อมราวกับว่าพวกมันอยากจะมาเล่นด้วย คณะของเราทานมื้อเที่ยงแบบปิคนิคกันบนชายหาดเกาะห้อง ทั้งของคาว ของหวาน ผลไม้ โดยเฉพาะข้าวยำที่จัดเตรียมมาให้คณะสื่อฯ ลองลิ้มชิมรสกันนี่อร่อยมากครับ ผมก็เพิ่งเคยทานครั้งแรกนี่แหละครับ อิ่มแล้วก็ลงไปนอนแช่ในน้ำทะเลช่างมีความสุขจริง ๆ จนไม่อยากกลับเลย


 

          บ่ายสามโมงครึ่ง คณะของเราเก็บข้าวของรวมถึงขยะ ภาชนะใส่อาหารน้ำดื่มต่าง ๆ ที่ขนเตรียมกันมา พอเวลากลับพวกเราก็ต้องขนกลับไปด้วย เพื่อเป็นการรักษาสภาพแวดล้อมให้สะอาดอยู่เสมอ จากนั้นเรือก็พาเรากลับมายังลากูนทะเลในอีกครั้ง ตามที่ผมได้เกริ่นไว้แล้วครับว่า พอน้ำลดพวกเราจะกลับมาที่นี่อีกครั้ง มาทำไมเหรอครับ ก็มาร่วมกิจกรรม “นับดาวบนผืนทราย” ไงครับ ท่านผู้อ่านคงแปลกใจใช่ไหมครับว่า ทำไมไม่นับดาวบนท้องฟ้า แต่นับดาวบนผืนทราย ก็ดาวที่ว่าน่ะ “ปลาดาว” ครับ ในลากูนเกาะห้องนี้มีปลาดาวอาศัยอยู่จำนวนมาก แต่จะมองเห็นและสัมผัสได้ก็ต่อเมื่อยามน้ำทะเลลดระดับลง จึงต้องรอให้น้ำลดแล้วพวกเราก็กลับมาที่นี่อีกครั้ง ไกด์เดินนำพวกเราลงจากเรือ เดินไปยังแหล่งอาศัยของพวกมัน โอ้โห....เยอะแยะไปหมดเลยครับ บนผืนทรายเต็มไปด้วยปลาดาว ให้นับยังไงก็ไม่ถ้วนครับเพราะเยอะมาก  พวกเราสนุกสนานกับการจับปลาดาวขึ้นมาวางบนมือแล้วถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก แล้วก็ค่อย ๆ วางมันลงบนผืนทรายอย่างช้า ๆ เหมือนเดิม เวลาเดินก็ต้องระวัง กลัวว่าจะไปเหยียบโดนมันเข้า เพราะสีของมันคล้าย ๆ กับสีของผืนทราย.... จนได้ยินเสียงคนขับเรือตะโกนบอกว่า ให้ขึ้นเรือได้แล้ว เดี๋ยวน้ำลดระดับลงมากกว่านี้เรือจะออกไม่ได้ พวกเราเลยต้องรีบกลับมาที่เรือเพราะกลัวเดี๋ยวเรือออกไม่ได้จริง ๆ

 

          คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายของทริปนี้ อาหารค่ำวันนี้จัดที่ร้านกอบัว อยู่ที่คลองสน เส้นทางที่จะไปคลองม่วง ก่อนรับประทานมื้อค่ำ ได้จัดให้มีการแลกเปลี่ยนมุมมองและทัศนคติระหว่างคณะสื่อมวลชนและทางจังหวัด ซึ่งก็ทำให้พวกเรามั่นใจได้ว่าจังหวัดกระบี่เป็นจังหวัดที่ถึงพร้อมในศักยภาพด้านการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องแหล่งท่องเที่ยว การบริการ ที่พัก ร้านอาหาร การคมนาคม และที่สำคัญด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว จากนั้นก็ได้เวลาอาหารมื้อค่ำแล้วครับ ร้านกอบัวเป็นร้านเปิดใหม่ สถานที่กว้างขวาง ตกแต่งคล้ายรีสอร์ท ดูร่มรื่นแวดล้อมไปด้วยแมกไม้ น้ำพุ และกอบัวอันเป็นสัญลักษณ์ของทางร้าน มีห้องสำหรับจัดประชุม/สัมมนาขนาดเล็กและใหญ่ไว้บริการอีกด้วย


 

          คำขวัญของจังหวัดกระบี่ที่ว่า “ กระบี่เมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก” นั้นไม่เกินจากความเป็นจริงเลยครับ เมื่อผมกลับจากทริปนี้แล้ว ทำให้ผมตระหนักว่าจังหวัดกระบี่นั้น ยังมีแหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมรูปแบบต่าง ๆ อีกมากมายที่เราไม่เคยรู้มาก่อน(ถึงแม้จะไปกระบี่มาหลายครั้งแล้วก็ตาม) เชื่อมั้ยครับว่า แหล่งท่องเที่ยวบางแห่งหรือกิจกรรมบางอย่างนักท่องเที่ยวต่างชาติรู้มากกว่าเราคนไทยเสียอีก ดังนั้นอย่านอนอยู่บ้านเฉย ๆ เลยครับ ออกมาท่องเที่ยวกันเถอะ เพื่อความครึกครื้นและคึกคักของเศรษฐกิจและตัวท่านเอง ตามคำชักชวนของพี่เบิร์ด ธงไชย...ไงล่ะครับ

 
 

ขอขอบคุณ :

ชาวจังหวัดกระบี่

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานจังหวัดกระบี่

องค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่

เทศบาลเมืองกระบี่

สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวกระบี่

สมาคมโรงแรมจังหวัดกระบี่

อบต.อ่าวลึกน้อยและชุมชนบ้านบากัน

เกาะพีพีทัวร์

อ่าวนางปริ๊นซ์วิลล์ รีสอร์ท & สปา

ร้านอาหารครัวธารา, ร้านอาหารเรือนไม้, ร้านอาหารกอบัว
ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่ไม่ได้เอ่ยนาม




ละไม ไทยแลนด์

ปลาหางนกยูงเกรดสวยงาม article
การแพร่พันธุ์ปลาหางนกยูง article
ปลาหางนกยูงสวยงาม เลี้ยงง่าย โตไว article
น้ำหอม PLAY ซีรีย์ article
กางเกงยีนส์ ราคาประหยัด
10 ความเป็นที่สุดในไทย
100 แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม
กระบี่ กับ 10 แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม
ท่องทะเลตรัง สวรรค์อันดามัน
9 อัศจรรย์สมุทรปราการ
พระธาตุสี่เมืองอีสาน
10 หาดสวย ทะเลใส ไม่ไกลกรุง
อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม
มหัศจรรย์สีเขียว เที่ยวแม่ฮ่องสอน
การแข่งขันฟุตบอลเยาวชน อายุไม่เกิน 16 ปี
โรแมนติก“ตรัง”
เที่ยวหัวใจใหม่ เมืองไทยยั่งยืน
ไปแอ่วเจียงฮายกั๋น
12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน
12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน # 2
12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน # 3
พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร จังหวัดสุพรรณบุรี
แนะเที่ยวแนะชิม เส้นทาง Unseen มุกดาหาร article
ล่องแก่งน้ำเข็ก พิษณุโลก
ท่องเที่ยวหน้าฝน อุบลฯ - ศรีสะเกษ article
บึงกาฬ จังหวัดใหม่ กับ 10 สุดยอด
อันดามัน มุมมองทางอากาศ
หมู่เกาะสุรินทร์
เกาะรอก – เกาะลันตา
กระบี่ Miracle @ Krabi
มหัศจรรย์แม่น้ำโขง "สามพันโบก"
ปาย article
เมืองสามหมอก
ปางอุ๋ง ปลายฝนต้นหนาว 1.1 article
ปางอุ๋ง ปลายฝนต้นหนาว 1 article
ปายแห่งเมืองสามหมอก ...มนต์เสน่ห์ปลายฝนต้นหนาว ตอนที่ 2 article
10 อุทยานแห่งชาติทางทะเล น่าเที่ยว...ร้อนนี้
กระบี่ “ เมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก”
เกาะลันตา จ.กระบี่ Part II
เกาะลันตา Part I
ไหว้พระธาตุประจำปีเสือ จ.แพร่
ยอดเขาโมโกจู อช.แม่วงก์
5 ทุ่งดอกไม้งามแห่ง...อีสานใต้
10 แหล่งท่องเที่ยวแนะนำ..หนาวนี้ article
วงรอบเชียงใหม่ - แม่ฮ่องสอน ความงดงามที่ไม่เปลี่ยนแปลง
เที่ยวกระบี่ สวยบาดตา....ราคาบาดใจ ตอนที่ 1
อันดามันใต้ ตะรุเตา - อาดัง – ราวี – หลีเป๊ะ
หมู่เกาะสิมิลัน
เที่ยวแดนอีสานเหนือ หนองบัวลำภู-เลย
ผจญภัย หัวใจสีเขียว
4 วิธีเที่ยวไทย หัวใจประหยัดพลังงาน
เที่ยวตามทาง พัทยา - สัตหีบ
ผามออีแดง อช.เขาพระวิหาร
เมื่อลมหนาวมาเยือน ได้เวลาชมทะเลหมอก article
วันเดียว เที่ยวนครปฐม+ราชบุรี
เกาะแก้วพิสดาร
ล่องแก่งป่าต้นน้ำ ที่อุ้มผางคี
สองล้อ...สองน่อง...ท่องอำนาจ
ทะเลสวย ที่กระบี่
สองวัน ที่โคราช
รับตะวันใหม่ก่อนใครในสยาม
ล่องแก่งน้ำเข็ก พิษณุโลก