จากโรงบ่มใบยา กล้าไม้ และวิถีไทย...สู่รีสอร์ทแห่งยุคสมัย “เก๊าไม้ล้านนา รีสอร์ท” ที่พักเงียบสงบ สะดวกสบายสำหรับการพักผ่อนของผู้รักธรรมชาติ...ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปเพียง 20 กิโลเมตร บนถนนสายเชียงใหม่-ฮอด

           อาคารโรงบ่มใบยาสูบก่ออิฐฉาบปูนทรงสูงอายุกว่า 70 ปี จำนวน 18 หลัง ถูกนำมาดัดแปลงเป็นห้องพัก 36 ห้อง โดยรักษารูปทรงและรูปแบบเดิมไว้ แล้วเสริมโครงสร้างภายในด้วยการต่อเติมให้เป็นสองชั้น เจาะช่องประตูและหน้าต่างขนาดเล็กใหญ่ และเชื่อมต่อทุกอาคารด้วยสะพานทางเดินยาวไม้ฟรีฟอร์มที่มีหลังคาเป็นร้านไม้ระแนง ปกคลุมด้วยไม้เลื้อยสีสวยงาม ภายในห้องพักตกแต่งง่าย ๆ แบบล้านนาร่วมสมัย เน้นความประณีต เครื่องเรือนโบราณถูกนำไปจัดวางในห้องพักอย่างลงตัว ผสมผสานกับงานหัตถกรรมของเมืองเชียงใหม่ พร้อมทั้งร้านอาหารเก๊าไม้ล้านนา ให้บริการทุกวัน เมนูอาหารไทย อาหารพื้นเมือง และอาหารนานาชาติเพื่อสุขภาพ...

          เก๊าไม้ล้านนา รีสอร์ท  เป็นโรงแรมที่มีการบริหารตามกรอบการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยได้รับเลือกเป็นหนึ่งในรายการผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยว ที่มีการจัดการบริหารอย่างยั่งยืนในประเทศไทย ในหนังสือ The National Guide Book to Thailand จัดทำโดยความร่วมมือกันระหว่างสถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ The Natural Guide (Bumi Kita Foundation) จากประเทศฝรั่งเศส โดยหลักการ ในการประเมินที่ใช้ในการจัดอันดับ คือ เป็นมิตรกับนักท่องเที่ยว เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และชุมชน

          สัมมนา (สบาย) ที่ เก๊าไม้ล้านนา รีสอร์ท  จ.เชียงใหม่

          เคยคิดอยู่เสมอว่า การสัมมนาเป็นเรื่องที่น่าเบื่อหน่าย ต้องนั่งในห้องประชุมที่น่าอึดอัด แต่ ณ วันนี้ความรู้สึกนั้นได้หายไปแล้ว ตั้งแต่ได้มีโอกาสจัดประชุมสัมมนากลางสวนที่ “ เก๊าไม้ล้านนา รีสอร์ท “

          โดยปกติแล้วสำนักงานที่ได้ทำงานอยู่ จะนัดประชุมกันในสำนักงานหรือห้องสัมมนา จัดเลี้ยงในตัวเมืองทั่วไป ไม่เคยได้สัมมนาในบรรยากาศกลางสวนเลยซักที แต่คราวนี้ที่สำนักงานมาแปลก มีมติเปลี่ยนมาจัดประชุมที่ เก๊าไม้ล้านนา รีสอร์ท   เราจึงรีบหาข้อมูลทันที เนื่องจากไม่บ่อยนักที่ทางสำนักงานจะพาเราออกมาสัมมนากันข้างนอก จากเว็บไซต์ kaomailanna ทำให้เรารู้ว่า เก๊าไม้ล้านนา รีสอร์ท  เป็นรีสอร์ทที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย เนื่องจากห้องพักได้ดัดแปลงจากโรงบ่มใบยาสูบเก่า อยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่น้อยสีเขียวชวนให้สบายตา แล้ววันเดินทางของเราก็มาถึง....

          จากสนามบินเชียงใหม่ เดินทางมาตามถนนเชียงใหม่-ฮอดเพียง 30 นาที ก็จะพบกับรีสอร์ทที่สงบร่มรื่นน่าอยู่ ความรู้สึกสบายใจเป็นความรู้สึกแรกที่ได้สัมผัส ทำให้รู้สึกว่าได้มาพักผ่อนมากกว่าจะมาสัมมนาเสียอีก หลังจากได้เช็คอินเข้าพักกัน ห้องพักประดับประดาเน้นศิลปะพื้นถิ่นเน้นการออกแบบ แบบอิงหลักธรรมชาติ เพิ่มสีสันด้วยภาพวาดดอกไม้สีสดใสเข้ากับห้อง เฟอร์นิเจอร์ไม้สักสไตล์โคโลเนียลเป็นส่วนมาก ทราบมาว่าเป็นของสะสมของเจ้าของทั้งหมด พวกเราเดินดูรอบ ๆ บริเวณรีสอร์ท เห็นต้นไม้ใหญ่ ๆ หลายต้นที่นี่ ทำให้นึกถึง การภาวนาด้วยการกอดต้นไม้แบบวิถีของหมู่บ้านพลัม ตั้งใจไว้ว่าจะได้มีโอกาสทดลองจริงก่อนกลับ ยืนนิ่งทำสมาธิหน้าต้นไม้ใหญ่ ประสานลมหายใจลึกเข้าออกอย่างช้า ๆ พร้อมกับหลับตากอดต้นไม้เบา ๆ ต้นไม้สูงใหญ่ตระหง่านอยู่ข้างหน้า ว่ากันว่า ต้นไม้ใหญ่ จะมีพลังแห่งการเยียวยาสูงมาก ยืนที่นี่สร้างความรู้สึกผ่อนคลาย และเบิกบานใจให้พวกเราอย่างมาก นึก ๆ แล้วอยากให้ที่ทำงานใจกลางเมืองใหญ่ มีต้นไม้ใหญ่อย่างนี้สักต้น เวลาวุ่นวายใจและเจอปัญหาอะไรหนัก ๆ ในชีวิตจะได้รู้สึกผ่อนคลายบ้าง หลังจากทานอาหารเย็นแล้ว ก็เข้าห้องพักของใครของมัน เพื่อเตรียมพร้อมกับการสัมมนาในรุ่งเช้า

          เสียงโทรศัพท์มอร์นิ่งคอลปลุกยามเช้า เตือนให้รู้ว่าถึงเวลาแล้ว ที่ต้องเตรียมพร้อมกับการสัมมนาทั้งวัน อากาศสดชื่น ลมเย็น ๆ ที่พัดผ่านในต้อนเช้า ไม่สามารถหาได้จากเมือง หรือจากชีวิตที่วุ่นวายทุกเช้าเพื่อเดินทางไปทำงาน เมื่อทานอาหารเช้าเสร็จ พวกเราทุกคน เดินมุ่งตรงไปยังลานสนามกว้างเพื่อเริ่มประชุม เก้าอี้และของจำเป็นในการประชุมได้จัดเตรียมไว้พร้อมแล้ว การนั่งประชุมหรือสัมมนากลางสวน เหมาะกับกลุ่มที่มากันไม่เยอะอย่างพวกเรา ถ้าอยากได้ห้องประชุมใหญ่ๆ  ที่เก๊าไม้ล้านนา รีสอร์ท  มีห้องประชุมขนาดใหญ่ที่สามารถจุคนได้ 100-150 คน หรือถ้ามาขนาดย่อมหน่อย 20-50 คน ที่เก๊าไม้ล้านนา รีสอร์ท  ก็มีห้องประชุมจัดให้ได้ โดยห้องประชุมทั้งสองที่ไปแอบเดินสำรวจดู จะเป็นห้องประชุมไม้ทรงโบราณ สไตล์ล้านนา บานประตู หน้าต่างของห้องประชุมใหญ่จะเป็นประตูหน้าต่างแบบโบราณดูมีเอกลักษณ์ดี....

          เวลาว่าง ๆ หลังเลิกประชุมสัมมนา พวกเราก็แยกย้ายกันไปทำกิจกรรมนู่นนี่ ที่แต่ละคนสนใจ บางพวกชอบสบาย ๆ หน่อย ก็จองเวลานวดไทย นวดน้ำมัน ทำทรีทเมนต์ สครับผิว จากสุมนไพรฉบับพื้นบ้านให้สวยผ่องก่อนกลับบ้านที่ท่ากานสปา บ้างก็ไปว่ายน้ำ ฝึกโยคะ

           ส่วนบางคนลุย ๆ อย่างผู้เขียน ก็ไปปั่นจักรยานสำรวจบริเวณรีสอร์ท และหมู่บ้านแถวนั้น ตามเส้นทางที่เจ้าหน้าที่รีสอร์ทแนะนำ อยากจะบอกว่าไม่ผิดหวังเลยที่เลือกกิจกรรมนี้ มองเห็นทุ่งหญ้าเขียวขจีสองฟากฝั่งชวนให้สบายตา เห็นแล้วก็จินตนาการนึกถึงข้าวหุงสีขาว ๆ หอม ๆ อุ่น ๆ ที่ได้ทานทุกวัน นึกย้อนไปกว่าจะมาเป็นเมล็ดข้าวเปลือก องค์ประกอบทั้งดิน น้ำ แสงแดด การบำรุงเลี้ยง อย่างเอาใจใส่จากผู้ปลูก วันนี้ได้เห็นที่มาของสิ่งที่เรากินเข้าไปทุกวัน ไม่ใช่จะเป็นเพียงแค่เมล็ดข้าว แต่ยังเป็นอาหารหลักเพื่อยังชีพของเราเท่านั้น แต่เป็นอาหารของความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติผสมผสานความรักอยู่ด้วยภาพที่สวยงามที่เห็นตรงหน้า ทำให้นึกขอบคุณธรรมชาติและชาวนาไทยของเราจริง ๆ เพราะนอกจากผลิตข้าวให้เราทานทุกวัน ยังสร้างวิวดี ๆ ให้เราเบิกบานใจอีกด้วย

           การเรียนรู้ความเป็นมาของคนจากอดีตสู่ปัจจุบัน ความเอื้ออาทร ความมีน้ำใจ เสน่ห์ที่ยังคงมีอยู่จริง และการเดินทางของเวลาไปพร้อม ๆ กับเก๊าไม้ล้านนา รีสอร์ท  ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นโรงบ่มใบยาสูบทุ่งเสี้ยว  เสร็จสิ้นจากการสัมมนาในคราวนี้ นอกจากจะได้เปลี่ยนบรรยากาศมาสัมมนาในสวนแล้ว ยังได้ทำกิจกรรมดี ๆ และพักผ่อนสมองในคราวเดียว สัมมนาคราวหน้าตั้งใจว่าจะกลับมาที่เก๊าไม้ล้านนา รีสอร์ท  อีกครั้ง

เก๊าไม้ล้านนา รีสอร์ท

ที่ตั้ง                  ถ.เชียงใหม่-ฮอด  ต.บ้านกลาง  อ.สันป่าตอง  จ.เชียงใหม่

โทรศัพท์            053-834470

โทรสาร              053-834480