WTI ซื้อขายในแนวโน้มขาขึ้นเล็กน้อยที่เหนือช่วงกลางของโซน $71.00 ยังไม่มีความชัดเจนในโมเมนตัมขาขึ้นนัก

 

ราคาน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) ขยับสูงขึ้นในช่วงเซสชั่นเอเชียในวันจันทร์ และคาดว่าจะก่อตัวขึ้นจากแรงการฟื้นตัวเล็กน้อยของสัปดาห์ที่แล้วจากระดับ $69.00/บาร์เรล หรือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน ในปัจจุบันสินค้าโภคภัณฑ์ซื้อขายเหนือโซนกลางของระดับ $71.00 เพียงเล็กน้อย มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 0.35% ในวันนี้ แม้ว่าจะขาดแรงซื้อตามมาท่ามกลางปัจจัยตลาดที่หลากหลาย

 

ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมของสหรัฐฯ (NFP) ที่แข็งแกร่งที่ได้เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นถึงเศรษฐกิจที่ยังคงฟื้นตัวได้ดีและกระตุ้นให้เกิดมุมมองแง่ดีบางอย่างเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์ของน้ำมันดิบในกลุ่มประเทศผู้บริโภคเชื้อเพลิงรายใหญ่ที่สุดของโลก ในทางกลับกัน เหตุการณ์นี้ถูกมองว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำหน้าที่เป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันดิบ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงไม่มั่นใจว่า การลดการผลิตล่าสุดที่ประกาศโดย OPEC+ จะเพียงพอที่จะชดเชยอุปทานที่ส่วนเกินเพิ่มขึ้นจากประเทศนอกกลุ่มพันธมิตรและอุปสงค์ทั่วโลกที่ลดลงหรือไม่ และเมื่อรวมกับข้อมูลทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอจากจีน ประเทศผู้นำเข้าน้ำมันอันดับต้น ๆ ก็ยิ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความต้องการเชื้อเพลิง และควรจำกัดความเคลื่อนไหวเชิงบวกที่มีนัยสำคัญใด ๆ ของราคาน้ำมันดิบ

 

ในความเป็นจริงแล้ว หน่วยงานศุลกากรของจีนรายงานได้เมื่อวันศุกร์ว่า การนำเข้าน้ำมันดิบลดลง 10% จากเดือนตุลาคมสู่ระดับต่ำสุดในรอบสี่เดือนในเดือนพฤศจิกายน นอกจากนี้ ข้อมูลเงินเฟ้อจากประเทศจีนที่เผยแพร่เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเผยให้เห็นว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนที่แล้วลดลงเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2020 นอกจากนี้ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) บันทึกการลดลงเป็นเดือนที่ 14 ติดต่อกันอีกด้วย ข้อมูลนี้ถูกมองว่าเป็นการสะท้อนถึงความต้องการของผู้บริโภคที่อ่อนแอ ซึ่งถือเป็นข้อควรระวังสำคัญก่อนที่จะวางเดิมพันเชิงรุกเกี่ยวกับการแข็งค่าขึ้นของราคาน้ำมันดิบ นักลงทุนส่วนใหญ่อาจเลือกที่จะรอสัญญาณต่าง ๆ ในช่วงก่อนความเสี่ยงจากเหตุการณ์สำคัญของธนาคารกลางต่าง ๆ ในสัปดาห์นี้

 

Source: https://www.mitrade.com/th/insights